บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ “MFC” มองแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอย และการขึ้นอัตราดอกเบี้ยใกล้ถึงจุดสูงสุด คือจังหวะสำคัญเพื่อคว้าโอกาสลงทุนในตราสารหนี้สหรัฐ ที่มีคุณภาพสูง ผ่านกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี ยูเอส แอกกริเกท บอนด์ ฟันด์ (MUBOND)
วันที่ 13 มิถุนายน 2566 นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการกองทุนคุณภาพทั้งในและต่างประเทศ กล่าวว่า สถานการณ์การลงทุนในปัจจุบันมีความเป็นไปได้สูงที่สหรัฐอเมริกาจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือ Recession จากทั้งวิกฤตธนาคารของสหรัฐ ต้นทุนทางการเงินที่สูง ตัวชี้วัดทางการเงินต่าง ๆ ตลอดจนวิกฤตเพดานหนี้สาธารณะที่ตกลงกันได้ว่าขยายเพดานหนี้ออกไป แลกกับการลดงบประมาณ ส่งผลต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ลดลง ประกอบกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้ว เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง จึงมองว่าสถานการณ์ดังกล่าวเป็นโอกาสทยอยสะสมตราสารหนี้สหรัฐ ที่มีคุณภาพสูง เพื่อผลตอบแทนที่มากขึ้น
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- บริษัทดัง ประกาศปิดกิจการ ทุกสาขาทั่วประเทศ เลิกจ้างหลายชีวิต
- หุ้นกู้ออกใหม่ 12 บริษัทดัง เปิดขายเดือน พ.ค.นี้ ชูดอกเบี้ยสูงสุด 7.20%
ทั้งนี้ บลจ.เอ็มเอฟซี แนะนำเข้าลงทุนในตราสารหนี้ คุณภาพดี ราคาไม่แพง กับ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี ยูเอส แอกกริเกท บอนด์ ฟันด์ หรือ MUBOND ที่มีนโยบายลงทุนผ่านกองทุนหลัก JPMorgan Funds-US Aggregate Bond Fund เพียงกองทุนเดียว ซึ่งเน้นลงทุนในตราสารหนี้สหรัฐ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) เป็นหลัก โดยกระจายความเสี่ยงในตราสารหนี้กว่า 2,000 ตัว ด้วยเครดิตเรตติ้งเฉลี่ยที่ AA จึงมีความเสี่ยงต่ำ ทนทานต่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลงแรง ขณะเดียวกันยังมีกลยุทธ์คัดเลือกหลักทรัพย์แบบ Bottom-Up ทำให้กองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนเหนือดัชนีได้อย่างสม่ำเสมอ
“การลงทุน MUBOND จะช่วยเสริมพอร์ตให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น หากเกิด Recession และการที่ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทะลุ 3.75% (ณ วันที่ 12 มิ.ย. 2566) ถือเป็นจังหวะเข้าลงทุนในกองทุน US Bond คุณภาพดี ราคาไม่แพง ที่ได้รับ Morningstar 4 ดาว และ Morningstar Bronze Medal การันตีโดยทีมบริหารการลงทุนที่มีประสบการณ์สูง ส่วนในแง่ของ Yield to Maturity ของกองทุนหลักยังสูงถึง 4.65% ต่อปี (ณ วันที่ 30 เม.ย. 2566) และมีโอกาสรับผลตอบแทนเพิ่มจาก Capital Gain เมื่อ Yield กลับมาปรับตัวลง เนื่องจากถือตราสารหนี้ที่มี Duration ยาว อายุเฉลี่ย 6.27 ปี จึงได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลงอีกด้วย” นายธนโชติกล่าวทิ้งท้าย
สำหรับกองทุน MUBOND มีความเสี่ยงระดับ 4 โดยแบ่งชนิดหน่วยลงทุนเป็น 2 แบบ ได้แก่ 1. ชนิดสะสมมูลค่า (MUBOND-A) เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการรับรายได้จากส่วนต่างการลงทุน ซึ่งกองทุนจะนำผลประโยชน์จากการลงทุนไปลงทุนต่อ และ 2. ชนิดจ่ายเงินปันผล (MUBOND-D) เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการรับผลตอบแทนจากเงินปันผล สามารถซื้อขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไปเพียง 1,000 บาท