พลิกธุรกิจ คิดแบบ Startup

พลิกธุรกิจ sme คิดแบบ Startup
คอลัมน์ : Smart SME
ผู้เขียน : ดวงกมล ลิมป์พวงทิพย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

ในช่วงไม่กี่ปีนี้ วงการธุรกิจได้มีการพูดถึงคำว่า startup กันอย่างกว้างขวาง โดยเริ่มต้นจากแวดวงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับไอทีต่าง ๆ ที่มีความสามารถโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Google, Twitter, Airbnb, Grab ก็ล้วนเคยเป็น startup มาก่อน

อย่างไรก็ตาม ความหมายของ startup ในปัจจุบัน หมายถึง ผู้ประกอบการใหม่ ๆ ที่ทำธุรกิจแล้วสามารถเติบโตได้แบบก้าวกระโดด โดยมีการนำเทคโนโลยี หรือนวัตกรรม มาเป็นแกนหลักในการสร้างธุรกิจ เพื่อตอบโจทย์โอกาสธุรกิจที่ยังไม่เคยมีใครคิดหรือทำมาก่อน และสามารถตอบสนองแก้ปัญหาให้ผู้บริโภคได้ดีกว่า

ซึ่งในยุคที่เทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจก่อให้เกิดความผันผวนอย่างรวดเร็ว ธุรกิจ SMEs ต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามไปด้วย เพื่อคงอยู่ในตลาดและสร้างความสำเร็จ แนวคิด “Think Like a Startup” เป็นแนวคิดที่สามารถช่วย SMEs ในการสร้างสรรค์และปรับตัวตามสภาวะการเปลี่ยนแปลงในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยแนวคิด “Think Like a Startup” เริ่มต้นด้วยการตระหนักถึงปัญหาที่ลูกค้าหรือตลาดกำลังเผชิญอยู่ การสำรวจความต้องการและปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเหมาะสม จะช่วยสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เป็นที่ต้องการจริงของลูกค้า

และมีการนำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีอยู่ในตลาดมาใช้ในธุรกิจ เทคโนโลยีสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการทำงานของธุรกิจ และนวัตกรรมสามารถช่วยสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ที่น่าสนใจและเป็นที่ต้องการของลูกค้า

การทำงานแบบทีมยังเป็นสิ่งสำคัญที่ SMEs สามารถนำมาใช้ การสร้างทีมที่มีความสามารถและความรู้ความชำนาญในด้านต่าง ๆ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจของ SMEs และเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในทีมให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น

ADVERTISMENT

นอกจากนี้ การทำงานแบบทีมยังสามารถสร้างความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมได้มากขึ้น เนื่องจากการร่วมมือกันของสมาชิกในทีม

ความเร็วในการปรับตัวถือเป็นข้อปฏิบัติหนึ่งของแนวคิดนี้ โดยต้องสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่ยืดหยุ่น ที่สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว และปรับปรุงตัวเองเพื่อพร้อมกับสภาวะการแข่งขันในตลาด

อีกทั้งส่งเสริมให้มีการทดลองและการเรียนรู้จากข้อผิดพลาด เป็นส่วนหนึ่งของการคิดเหมือน startup นั้น ช่วยให้สามารถปรับปรุงและปรับเปลี่ยนกลไกการทำงานของธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง

พร้อมทั้งมีการติดตามและการวิเคราะห์ตลาดอยู่ตลอดเวลา

โดยความสำเร็จของธุรกิจขึ้นอยู่กับการเข้าใจและติดตามสภาวะการเปลี่ยนแปลงในตลาด ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์และตระหนักถึงพฤติกรรมของลูกค้า และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดและการขายเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดให้ได้มากที่สุดเหนือคู่แข่ง

ผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าให้ดีขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การค้นพบโอกาสใหม่และการต่อยอดธุรกิจอันเป็นส่วนสำคัญของแนวคิด “Think Like a Startup” อย่างต่อเนื่อง