
Kbank ส่ง KBTG บุกเวียดนาม ตั้งเป้าเฟ้นพนักงานสายเทคฯ ชาวเวียดนาม 500 ตำแหน่ง พร้อมชี้ส่วนสัดประชากร แรงงาน กฎระเบียบ และทักษะดิจิทัล พร้อมปรับใช้โมบายแบงกิ้งเร็วกว่าไทย ดันเป้ายอดผู้ใช้ K+ Vietnam โต 1.3 ล้านบัญชีในปี 2023
วันที่ 23 มิถุนายน 2566 นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจโลกในระยะหลังจากนี้จะมีพื้นที่เอเชียเป็นตลาดสำคัญ โดยเฉพาะใน AEC+3 ที่เป็นตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยประชากรวัยหนุ่มสาว และมีการขยายตัวของดิจิทัลไลฟ์สไตล์ที่จะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้เศรษฐกิจในภูมิภาคเติบโตต่อไปได้ในระยะข้างหน้า
ธนาคารจึงเดินหน้าขยายบริการในภูมิภาคเพื่อเชื่อมต่อโอกาสให้แก่ธุรกิจไทย และส่งมอบบริการให้แก่ลูกค้ารายย่อยและผู้ประกอบการในประเทศท้องถิ่น ด้วยการใช้กลยุทธ์การขยายธุรกิจออกไปสู่ภูมิภาคอาเซียนในรูปแบบธนาคารดิจิทัล (Regional Digital Expansion) ที่เน้นการพัฒนาด้านเทคโนโลยี เสริมทัพทีมงาน การลงทุนในสตาร์ตอัพ และกิจการในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เพื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจและเทคโนโลยี ส่งมอบบริการบนดิจิทัลสู่ผู้ใช้งานในท้องถิ่นได้อย่างคล่องตัวสูง
ซึ่งจะทำให้ธนาคารกสิกรไทยเป็นธนาคารยุคใหม่แห่งภูมิภาค AEC+3 พร้อมเป้าหมายการเป็น 1 ใน 20 ธนาคารที่ดีที่สุดในประเทศเวียดนามได้ภายในปี 2570
“ในยุคปัจจุบันธนาคารมีแนวโน้มจะเปลี่ยนไปสู่ดิจิทัลมากขึ้น และคำว่าดิจิทัล คืออะไร สำหรับเรามันคือการทำให้ชีวิตของลูกค้าง่ายขึ้น เข้าถึงผู้คนได้หลากหลายทั่วถึง ยกระดับประสบการณ์ใช้งานได้ดีขึ้น จากบริการที่รวดเร็วและน่าเชื่อถือ KBTG ในฐานะผู้พัฒนาด้านดิจิทัล เราจึงช่วยส่งเสริมมอตโต้ของเราให้เด่นชัดว่า บริการทุกระดับประทับใจ”
โดย KBTG จัดตั้งบริษัท KBTG Vietnam เป็นสาขาที่ 3 ในทวีปเอเชีย ตั้งเป้าเสาะหาบุคลากรคุณภาพสายไอทีที่มีทักษะเทคโนโลยีสำคัญร่วมเสริมทีม เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจของ KBank ที่มีกลยุทธ์ขยายตลาดการให้บริการทั้งในเวียดนามและในภูมิภาค AEC+3 ในรูปแบบธนาคารดิจิทัล (Regional Digital Expansion)
คาดการณ์ว่าจะมีบุคลากรกว่า 500 ตำแหน่งในอีก 3 ปีข้างหน้า
ด้านนางวรนุช เดชะไกศยะ Executive Chairman กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) เปิดเผยว่า KBTG เปรียบเสมือนแขนขาหรืออาวุธของ Kbank โดยเฉพาะการที่ธนาคารจะขยายสาขาไปในประเทศต่าง ๆ อย่างเวียดนามที่มีประชากรกว่า 100 ล้านคน เราต้องคิดว่าทำอย่างไรจะมีคนที่เก่งมากพอที่จะช่วยเราบำรุงรักษาและพัฒนาระบบโมบายแอปพลิเคชั่น ให้รองรับการใช้งานจำนวนมหาศาล ที่สำคัญคือสถานการณ์ Talent War ในประเทศไทย ที่ทำให้ KBTG ดำเนินการเชิงรุกอย่างต่อเนื่องในการสรรหาบุคลากรที่มีศักยภาพตรงความต้องการ เพื่อมารองรับธุรกิจของธนาคารทั้งในไทยและระดับภูมิภาค
“เราพบว่าประเทศเวียดนามนั้น นอกจากมีบุคลากรทางด้านไอทีและมีนักศึกษาสาขา STEM (Science, Technology, Engineering, Mathematics) เป็นอันดับต้น ๆ ของอาเซียน โดยเฉพาะด้านซอฟต์แวร์ที่ 1 ปี เขาจบนับหมื่นคน ขณะที่บ้านเรามีน้อยมาก ทั้งมีวัฒนธรรมการทำงานที่คล้ายคลึงกันกับประเทศไทย”
KBTG จึงได้จัดตั้ง KBTG Vietnam Company Limited หรือ KBTG Vietnam ขึ้นที่เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เพื่อรองรับการพัฒนาเทคโนโลยีในการให้บริการของธนาคารกสิกรไทยทั้งในเวียดนามและในภูมิภาค โดยบริษัท KBTG Vietnam ถือเป็นบริษัทสาขาที่ 2 ของ KBTG ในภูมิภาคอาเซียน
และเป็นสาขาที่ 3 ในทวีปเอเชีย ถัดจาก KBTG ในไทย และบริษัท K-Tech ที่เมืองเสิ่นเจิ้น ประเทศจีน โดย KBTG คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนบุคลากรที่ต้องเข้ามาเสริมทีมเพิ่มขึ้นรวมกว่า 500 ตำแหน่งในอีก 3 ปีข้างหน้า และจะก้าวขึ้นเป็นบริษัทเทคโนโลยีระดับภูมิภาค (Regional Tech Company) ภายในปี 2568 ตามเป้าหมายที่วางไว้
ทั้งนี้ การที่ KBTG มีฐานทัพและบุคลากรมากฝีมือทั้งในประเทศไทย ประเทศจีน และประเทศเวียดนาม จะช่วยให้สามารถใช้ประโยชน์จากการทำงานร่วมกันของทั้ง 3 ประเทศ สามารถดึงศักยภาพและความเชี่ยวชาญในแต่ละส่วนมาประกอบกัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านเทคนิค รวมถึงทักษะด้านต่าง ๆ ที่สำคัญ เช่น AI, Blockchain, Supply Chain, Coding Methodology ของ KBTG ให้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว สามารถสร้างสรรค์ประสบการณ์ทางการเงินอย่างเต็มรูปแบบให้กับลูกค้าทั้งในไทย เวียดนาม และประเทศอื่น ๆ ทั่วภูมิภาค
ด้านนายธนุสศักดิ์ ธัญญสิริ Managing Director บริษัท KBTG Vietnam กล่าวว่า ด้วยจำนวนประชากรวัยแรงงานและอัตราการใช้โมบายแบงกิ้งที่เพิ่มสูง อีกทั้งระบบ E-KYC ตามระเบียบของเวียดนามทำให้ชาวเวียดนามเปิดบัญชีออนไลน์และใช้งาน K+ ได้รวดเร็วมาก พวกเขาไม่ได้ผ่านยุคที่ต้องใช้อินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง ที่เป็นเว็บไซต์ไปเลย และเติบโตมาพร้อมกับยุคดิจิทัลโมบายที่ทำให้การสเกลอัพรวดเร็วขึ้น แต่ก็ต้องการคนที่มีความสามารถมาช่วยอีกมาก
“ภายใน 1 ปี เราสเกลได้ 6 แสนคน จากวันแรกเรามาเวียดนามมีคนอยู่ 3 คน ตอนนี้พนักงานกว่า 200 คนที่ดูแลระบบและพัฒนาแอปพลิเคชั่นเป็นชาวเวียดนามทั้งหมด ที่สามารถออกแบบฟีเจอร์ใหม่ ๆ ให้เหมาะกับท้องถิ่นของตนได้”
นายธนุสศักดิ์กล่าวต่อว่า พันธกิจหลักของบริษัท KBTG Vietnam คือการพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software Development) สร้างนวัตกรรมด้านการเงิน และเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองการดำเนินธุรกิจของธนาคารกสิกรไทยและลูกค้าธุรกิจต่าง ๆ ในประเทศไทย เวียดนาม และทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ การเป็นบริษัทเทคโนโลยีระดับท็อปของเวียดนามภายในปี 2568
สำหรับเป้าหมายของ KBTG Vietnam ในปี 2566 มุ่งเป้าไปที่การสรรหาบุคลากรไอทีกลุ่มแรกจำนวน 200 คน เพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์ให้กับธนาคารกสิกรไทยและธุรกิจต่างประเทศ ร่วมสร้างและพัฒนาแอปพลิเคชั่น K PLUS Vietnam ซึ่งเป็นบริการเรือธง (Flagship Product) ของธนาคารกสิกรไทย มีผู้ดาวน์โหลดใช้งานแล้วจำนวนกว่า 600,000 คน และจะเป็นแพลตฟอร์มบริการสำคัญที่ใช้รองรับการขยายฐานลูกค้าของธนาคารในประเทศด้วยเป้าหมายในปี 2566 กว่า 1.3 ล้านคน
“เวียดนามมีธนาคารเยอะมาก และเราไม่ได้มองว่าเรามาแข่งกับใคร เราวางตัวเองเป็นผู้ให้บริการด้านฟินเทคฯ ที่เป็นธนาคารดิจิทัล เราจึงคาดหวังจะเป็นผู้มีส่วนร่วมในการสร้างอีโคซิสเต็มที่สำคัญทางเศรษฐกิจและฟินเทคฯ”
โดย KBTG Vietnam จดใบอนุญาตบริษัท วันที่ 28 มิถุนายน 2565 เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชั่นที่จำเป็นต่อการให้บริการของธนาคารกสิกรไทยในเวียดนามและภูมิภาค เช่น ระบบ Core Banking เพื่อรองรับปฏิบัติการธนาคารของ KBank Vietnam (Core Banking Vietnam) และ Internet Banking รวมถึงคิดค้นนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ โดยมีสำนักงานที่ตึก Friendship Tower ที่นครโฮจิมินห์ และตึก Dreamplex Thai Ha ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม