เวียดนามปลุก “เศรษฐกิจดิจิทัล” ปักธง “ฮับ” ดาต้าเซ็นเตอร์

เวียดนาม

การใช้อินเทอร์เน็ตและแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ใน “เวียดนาม” กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว จากการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดด พร้อมกับนโยบายของรัฐบาลที่ตั้งเป้าผลักดัน “เศรษฐกิจดิจิทัล” ให้เป็นแกนหลักใหม่ของเศรษฐกิจเวียดนาม ทำให้ยักษ์เทคต่างชาติเห็นโอกาสการลงทุนดิจิทัลในเวียดนามมากขึ้น

นิกเคอิ เอเชีย รายงานว่า รัฐบาลเวียดนามตั้งเป้าให้เศรษฐกิจดิจิทัลมีสัดส่วน 20% ของจีดีพีภายในปี 2025 ก้าวกระโดดจากระดับ 5.6% หรือ 23,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2022 ตามรายงานวิจัยร่วมระหว่าง “กูเกิล” กับบริษัทที่ปรึกษาด้านการจัดการธุรกิจ “เบนแอนด์คอมปะนี” และกองทุนเพื่อการลงทุนสิงคโปร์ “เทมาเส็ก”

ซึ่งหากบรรลุตามเป้าหมายดังกล่าว “เวียดนาม” จะกลายเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจดิจิทัลเติบโตเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นับเป็นเป้าหมายอันทะเยอทะยานที่ดึงดูดให้บริษัทเทคโนโลยีทั่วโลกเพิ่มการลงทุนในเวียดนาม โดยเฉพาะการให้บริการ “คลาวด์คอมพิวติ้ง” และ “ดาต้าเซ็นเตอร์”

“มิตซูบิชิ เวียดนาม” กำลังเร่งขยายธุรกิจจัดจำหน่ายเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำหรับเซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ที่มีความต้องการสูงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจที่ต้องจัดเก็บข้อมูลของผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก เช่น ในภาคธนาคาร

เช่นกันกับ “หัวเว่ย” ที่เร่งขยายตลาดอุปกรณ์สำหรับธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ ในเวียดนาม อย่างเช่น “ตู้แร็ก” สำหรับเก็บรักษาเครื่องเซิร์ฟเวอร์ ส่วน “อเมซอน เว็บ เซอร์วิส” ซึ่งเป็นเจ้าตลาดคลาวด์ ก็กำลังขยายบริการจัดเก็บข้อมูลในเวียดนามมากขึ้น

ทั้งนี้ความต้องการใช้บริการระบบจัดเก็บข้อมูลเพิ่มสูงขึ้นในเวียดนาม ภายหลังรัฐบาลผ่านกฎหมายความปลอดภัยทางไซเบอร์เมื่อปี 2019 ที่กำหนดให้บริษัทต่าง ๆ ต้องจัดเก็บข้อมูลของผู้ใช้บริการไว้บนเซิร์ฟเวอร์ภายในประเทศ แม้ว่ากฎหมายจะถูกตั้งคำถามว่าเป็นการละเมิดพันธสัญญาข้อตกลงการค้าหรือไม่ แต่บริษัทต่างชาติ ก็ต้องหาพื้นที่จัดเก็บข้อมูลในประเทศเวียดนามเพิ่มขึ้น

ด้วยราคาที่ดินที่ต่ำกว่าประเทศอื่น รวมถึงพลังงานราคาถูกของเวียดนาม ที่เป็นผู้ผลิตพลังงานแสงอาทิตย์รายใหญ่ที่สุดในอาเซียน ยังเป็นข้อได้เปรียบด้านต้นทุนที่ช่วยเพิ่มแรงดึงดูดบริษัทต่างชาติได้มาก

“คีเวน ฉั่ว” ผู้อำนวยการ BlomTEQ ผู้ให้บริการระบบตรวจสอบแบตเตอรี่เซิร์ฟเวอร์ จากสิงคโปร์ ระบุว่า ปัจจุบันตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ของสิงคโปร์อิ่มตัวแล้ว ขณะที่เวียดนามเป็นตลาดเป้าหมายต่อไปสำหรับธุรกิจศูนย์ข้อมูล

ด้านสตาร์ตอัพเกมยูนิคอร์นของเวียดนามอย่าง “วีเอ็นจี คอร์ปอเรชั่น” คาดว่าตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ของเวียดนามจะขยายตัว 11% ในอีก 5 ปีข้างหน้า จากผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียราว 70 ล้านคน บริษัทจึงเร่งเดินหน้าสร้างเครือข่ายใยแก้วเพื่อรองรับธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์

ขณะที่การควบคุมเนื้อหาอินเทอร์เน็ตที่เข้มงวดของเวียดนามก็ยังเป็นอุปสรรคการลงทุนของต่างชาติ อย่าง “เน็ตฟลิกซ์” ที่ได้รับคำสั่งจากทางการเวียดนามให้ลบวิดีโอสตรีมมิ่งที่มีเนื้อหาซึ่งถูกระบุว่าเป็นความเข้าใจผิดออกจากแพลตฟอร์ม สิ่งนี้อาจทำให้เวียดนามพลาดโอกาสดึงดูดบริษัทเทคโนโลยีต่างชาติบางรายได้

“เท็ด โอเซียส” ประธานสภาธุรกิจสหรัฐ-อาเซียน และอดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเวียดนาม ชี้ว่า แม้จะเป็นการตัดสินใจในเชิงธุรกิจ แต่ก็มีความตึงเครียดด้านกฎระเบียบหลายจุดในเวียดนาม การประนีประนอมจึงจะเป็นทางออกสำคัญสำหรับการผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัลเวียดนามให้บรรลุเป้าหมาย