หุ้น-การเงิน

หุ้น TPL ราคาวิ่งแตะนิวไฮ +119.7% เหล่าเซียนติดโผผู้ถือหุ้นใหญ่เพียบ

บมจ.ไทยพาร์เซิล (TPL)

หุ้น TPL เปิดเทรดวันแรกท็อปฟอร์ม ราคาวิ่งแตะนิวไฮ +119.7% จากราคาไอพีโอ จนตลาดหลักทรัพย์ฯต้องออกโรงเตือน พบนักลงทุนขาใหญ่-เซียนหุ้นชื่อดังติดโผผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันแรกเพียบ

วันที่ 30 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นวันแรกที่ บมจ.ไทยพาร์เซิล (TPL) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ด้วยราคาเปิดเทรดที่ 5.90 บาท เพิ่มขึ้น 2.60 บาท หรือ +78.80% จากราคาจองซื้อไอพีโอที่ 3.30 บาท โดยราคาหุ้นสามารถขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดของวันที่ 7.25 บาท เพิ่มขึ้น 3.95 บาท หรือ 119.7%

จนกระทั่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกมาเตือนนักลงทุน โดยให้ข้อเท็จจริงและข้อน่าสังเกตในสภาพการซื้อขายหุ้น TPL และขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อขาย เนื่องจากพบว่าสภาพการซื้อขายภาคเช้าของวันนี้ (30 มิ.ย. 2566) มีข้อน่าสังเกตหลายประการและมีแรงเก็งกำไรสูงคือ

  • ก่อนเปิดตลาด พบคำสั่งเสนอซื้อกระจุกตัวในกลุ่มบุคคลในสัดส่วนเกือบ 70% ของปริมาณการเสนอซื้อทั้งหมด ซึ่งมีผลให้เปิดตลาดที่ราคา 5.90 บาท (+78.79% จากราคา IPO ที่ 3.30 บาท)
  • การซื้อขายภาคเช้า พบการซื้อและขายกระจุกตัวในกลุ่มบุคคลเดิมประมาณ 40% และ 24% ของมูลค่าการซื้อขาย Automatic Order Matching (AOM) ตามลำดับ มีส่วนทำให้ราคาเพิ่มขึ้นไปสูงสุดที่ 7.15 บาท และยังพบว่ากลุ่มดังกล่าวได้ส่งคำสั่งเสนอซื้อและเสนอขายในปริมาณมากหลายระดับราคาเช่นกัน

ในส่วน Trade report พบราคาสูงกว่า IPO กว่า 21.21% จำนวน 4.87% ของทุนชำระแล้ว (25.5 ล้านหุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 4.00 บาท (IPO ที่ 3.30 บาท)

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ติด 10 อันดับแรกของ TPL พบว่ามีบรรดาบุคคลที่มีชื่อเสียงและบรรดาเซียนหุ้นชื่อดังเข้ามาลงทุนหลายราย ประกอบด้วย

1.นางวัสสา จีนะวิจารณะ ภรรยาของนายเฉลิมชัย จินะวิจารณะ (อดีต ส.ส.) ถือหุ้น 35.88%

2.บมจ.อควา คอร์เปอเรชั่น (AQUA) ถือหุ้น 26.73%

3.นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คอมเซเว่น (COM7) ถือหุ้นอยู่ 3.82%

4.นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) (SYNEX) ซึ่งเป็นลูกสาวคนโตของนายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรค และประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจของ พรรคไทยสร้างไทย และเป็นอดีตประธานกรรมการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยถือหุ้นอยู่ 3.34%

5.นายบัญชา พันธุมโกมล นักลงทุนรายใหญ่ ถือหุ้น 2.77%

6.นายแพทย์พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี เซียนหุ้นชื่อดังสายเน้นคุณค่า (VI) ถือหุ้น 1.91%

7.นายปรินทร์ โลจนะโกสินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แพลน บี มีเดีย (PLANB) ถือหุ้น 1.62%

8.นายวรพจน์ อำนวยพล นักลงทุนรายใหญ่ ผู้ถือหุ้นเบอร์ 1 บมจ.สกาย ไอซีที (SKY) ถือหุ้น 1.62%

9.นายพีรเจต สุวรรณนภาศรี นักลงทุนรายใหญ่สายเน้นคุณค่า (VI) ถือหุ้น 1.53%

10.นายศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เอ็ม เอฟ อี ซี (MFEC) ถือหุ้น 1.26%

สำหรับ TPL ประกอบธุรกิจให้บริการจัดส่งสินค้าหรือสิ่งของในประเทศไทย ทั้งสำหรับภาคธุรกิจและบุคคลทั่วไป รวมถึงให้บริการเก็บเงินค่าสินค้าปลายทาง ด้วยจุดเด่นในการส่งสินค้าขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก หลากรูปทรง ถือเป็นผู้ให้บริการระดับ Niche ในตลาด Logistics ของประเทศไทย ภายใต้สโลแกน “ส่งหนัก ส่งใหญ่ ส่งทั่วไทย ใช้ TP Logistics” โดยบริษัทมีกลุ่มลูกค้ากระจายไปในกลุ่ม B2B B2C C2C ในอัตราไล่เลี่ยกัน

ปัจจุบันบริษัทให้บริการจัดส่งสินค้าและสิ่งของประมาณ 3.5-6 แสนชิ้นต่อเดือน มีจุดให้บริการกว่า 120 แห่งทั่วประเทศ และยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก สอดคล้องกับทิศทางของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของไทย

“TPL ถือเป็นหุ้นที่แข็งแกร่งด้านฐานะการเงิน โดยเฉพาะหากพิจารณาสัดส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ต่ำเพียง 0.5 เท่า ซึ่งไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน และเงินที่ได้จากการระดมทุนจะสามารถช่วยให้เพิ่มศักยภาพธุรกิจและเงินทุนหมุนเวียนผลักดันการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง”

ด้านนายภัทรลาภ ทวีวงศ์ ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยพาร์เซิล จำกัด (มหาชน) หรือ TPL กล่าวว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 15-20% เทียบจากปีก่อน โดยมีแผนการลงทุนในศูนย์คัดแยกและกระจายสินค้าระดับภูมิภาค (Regional Hub) ที่จังหวัดนครสวรรค์ นครราชสีมา สุราษฎร์ธานี และการลงทุนในศูนย์กระจายสินค้า (Distribution Center) ในเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดแยกและกระจายสินค้า

โดยตั้งเป้าจะสามารถเพิ่มศักยภาพการจัดส่งสินค้าเต็มความสามารถอยู่ระดับ 1 ล้านชิ้นต่อเดือน ภายใน 3 ปี หรือเติบโตเท่าตัว รวมทั้งมั่นใจว่ากลุ่มพันธมิตรที่ร่วมถือหุ้น จะช่วยสนับสนุนและเพิ่มโอกาสต่อยอดธุรกิจได้ในอนาคต

อีกทั้งการลงทุนในยานพาหนะที่เป็นรถขนส่ง EV ทั้ง 6 ล้อและ 4 ล้อ รวมถึงการสร้างสถานีชาร์จ เพื่อใช้ในการขนส่งสินค้าในพื้นที่กรุงเทพมหานครและภาคกลาง ที่คาดว่าจะสามารถลดต้นทุนพลังงานเชื้อเพลิงได้กว่า 50% ช่วยสนับสนุนให้รายได้และกำไรเพิ่มขึ้น