ดร.กอบศักดิ์ ไม่กังวลภาพรวมเศรษฐกิจไทยมองปัจจัยพื้นฐานยังดี ชี้ยังรอได้เพื่อจัดตั้งรัฐบาลที่ดีที่สุด ด้านฟันด์โฟลว์ต่างชาติรอดูความชัดเจนการเมืองเป็นหลัก จับตาโหวตเลือกนายกฯ อีกครั้ง 27 ก.ค.นี้
วันที่ 24 กรกฎาคม 2566 ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ และประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (fetco) กล่าวว่า ในระหว่างที่รอการจัดตั้งรัฐบาลทุก ๆ ฝ่ายจะต้องช่วยกันดูเรื่องของการท่องเที่ยวให้เดินหน้าต่อไปได้
- วิธีลงทะเบียนแอป ทางรัฐ ยืนยันตัวตน รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- เปิด 20 อันดับโรงพยาบาลดีที่สุดในไทย ปี 2567
- แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท จุลพันธ์ แจงใช้จ่ายผ่านบัตรประชาชนได้
ซึ่งก็เชื่อว่าทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รวมถึงหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องจะยังมีงบประมาณเพียงพอที่จะดำเนินการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวีซ่า ที่จะทำให้การท่องเที่ยวกลับมามีบทบาทที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ รวมถึงเรื่องของงบประมาณภาครัฐก็มองว่ายังมีอยู่เพียงพอที่จะรอการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จนสำเร็จ และอัดฉีดงบฯเข้ามากระตุ้นได้อย่างเต็มที่ในช่วงต้นปี 2567
ดังนั้นโจทย์สำคัญคือในระหว่างที่รอการจัดตั้งรัฐบาล จะทำอย่างไรให้เศรษฐกิจเดินต่อไปได้เพื่อไม่ให้ทุกอย่างหยุดชะงัก โดยมองว่าไทยได้เปรียบในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะเรื่องของพื้นฐาน (Fundamental) ฉะนั้นในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้กังวลมากนัก เพราะเศรษฐกิจในระดับ Makro ยังไปต่อได้
นอกจากนี้ไทยยังมีเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ เงินสำรองระหว่างประเทศก็ยังดี ขณะที่เงินบาทแม้จะผันผวนแต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ยังมีเสถียรภาพพอสมควร ในส่วนของธนาคารก็ยังเข้มแข็งมีกำไรเพียงพอที่จะรับมือผลกระทบต่าง ๆ
“ภาพรวมประเทศไทยเชื่อว่าจะยังเดินต่อได้และในระหว่างนี้ โดยที่เศรษฐกิจไม่ต้องหยุดชะงักลง หรือถ้าหากต้องรออีก 1-2 เดือนเพื่อที่จะจัดตั้งรัฐบาลที่ดีที่สุดก็เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยรอได้” ดร.กอบศักดิ์กล่าว
ในขณะที่ประเด็นเรื่องของเงินลงทุนต่างชาติ หรือฟันด์โฟลว์ยังคงต้องรอก่อน เพราะนักลงทุนต่างชาติยังรอดูความชัดเจนด้านการเมืองเป็นหลัก และอีกเรื่องสำคัญที่ทำให้ปีนี้เงินไหลออก เพราะปีที่แล้วตลาดหุ้นไทยกลายเป็นหลุมหลบภัยท่ามกลางประเทศอื่น ๆ ที่ไม่สู้ดีนัก แต่มาปีนี้ประเทศอื่น ๆ เริ่มฟื้นตัวขึ้น เงินจึงไหลออกไปลงทุนยังประเทศที่มีโอกาสแสวงหาผลกำไรได้มากกว่า บวกกับมาเจอเรื่องของการเมืองยิ่งทำให้นักลงทุนชะลอเงินลงทุนและรอความชัดเจนก่อน
ดังนั้นคงต้องรอดูการประชุมสภาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีรอบที่ 3 ในวันที่ 27 ก.ค.นี้ อีกครั้งว่าจะมีผลออกมาเป็นอย่างไร
