หุ้น XD คืออะไร ? รู้ไว้ก่อนเล่นหุ้น

หุ้น-ลงทุน

หุ้น XD คืออะไร ? สิ่งที่นักลงทุนต้องรู้ไว้ก่อนตัดสินใจลงทุน

หุ้น XD คืออะไร ?

เครื่องหมาย XD (Exclude Dividend) เป็นเครื่องหมายที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนดขึ้นเพื่อเตือนให้ผู้ลงทุนในหุ้นที่ขึ้นเครื่องหมายนั้น ทราบว่าผู้ซื้อหุ้นนั้นจะไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผลที่ประกาศจ่ายในงวดนั้น อย่างไรการเข้าลงทุนในหุ้นก่อนวันขึ้นเครื่องหมาย XD อาจไม่ทำให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นจากการได้รับเงินปันผลเสมอไป เนื่องจากหลังวันที่ขึ้นเครื่องหมาย XD ราคาหุ้นมักจะมีราคาตกลงมาในจำนวนที่ใกล้เคียงกับเงินปันผลที่จ่าย

ดังนั้น หากเป็นนักลงทุนระยะสั้น การได้รับเงินปันผล แต่ต้องขาดทุนจากการขายหุ้นในราคาต่ำ แต่หากเป็นนักลงทุนระยะยาวแล้ว การซื้อหุ้นที่จ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูง จะเป็นประโยชน์ในแง่ผลตอบแทนที่เป็นเงินสดที่จะได้รับในแต่ละปี

เก็บหุ้นปันผลช่วงไหนดี ?

โดยช่วงที่เหมาะสมในการเก็บหุ้นปันผลคือ 1-2 เดือนก่อนบริษัทจะประกาศขึ้นเครื่องหมาย XD โดยปกติจะเริ่มทยอยประกาศในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ดังนั้น ช่วงเดือนมกราคมถึงต้นกุมภาพันธ์ เป็นจังหวะที่ดีในการซื้อหุ้นปันผล

ส่วนเวลาที่ไม่เหมาะสมในการซื้อหุ้นปันผลคือช่วงใกล้ ๆ ประกาศเครื่องหมาย XD เช่น 1 สัปดาห์ หรือ 1-2 วัน เพราะสังเกตได้ว่าช่วงนั้นนักลงทุนส่วนใหญ่จะเข้ามาซื้อปันผลกันอย่างหนาแน่น ทำให้ราคาหุ้นปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะยิ่งซื้อหุ้นได้ราคาแพง ๆ อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลก็จะน้อยลง

Advertisment

อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล = (เงินปันผลต่อหุ้นต่อปี/ราคาหุ้นปัจจุบัน) x 100

ยกตัวอย่าง

  • หุ้น ABC วันที่ 1 มกราคม 2561 ราคาหุ้นอยู่ที่ 25 บาท บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผล 2 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 8%
  • หุ้น XYZ วันที่ 1 มกราคม 2561 ราคาหุ้นอยู่ที่ 18 บาท บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผล 2 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 11.11%

จากตัวอย่าง ถึงแม้หุ้น ABC และ XYZ จะจ่ายเงินปันผลเท่ากัน คือ 2 บาท แต่หุ้น XYZ มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงกว่า เพราะมีราคาหุ้นต่ำกว่า

ดังนั้น หากสนใจควรหาจังหวะที่ราคาหุ้นปันผลยังไม่ขยับขึ้น หรือถ้าเป็นไปได้ควรซื้อในช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวนหรือเป็นขาลง เพราะราคาหุ้นส่วนใหญ่ (รวมถึงหุ้นปันผล) จะปรับลดลงตามภาวะตลาดโดยรวม

หุ้นที่สามารถจ่ายเงินปันผลได้สม่ำเสมอ เป็นอย่างไร ?

โดยหุ้นที่มีความสามารถจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ มีคุณสมบัติ ดังนี้

Advertisment
  • ผลการดำเนินงานเติบโตสม่ำเสมอ ถึงแม้ยอดขายหรือกำไรจะไม่เติบโตแบบก้าวกระโดดเหมือนบริษัทที่กำลังขยายธุรกิจ แต่ผลการดำเนินงานจะเติบโตในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปไม่หวือหวา ที่สำคัญจะไม่ขาดทุนเลย
  • ผลการดำเนินงานคาดการณ์ได้ง่าย หุ้นปันผลที่ดีจะสามารถคาดการณ์แนวโน้มผลการดำเนินงานในอนาคตได้ง่าย วิธีการคือ นำตัวเลขประมาณการกำไรต่อหุ้น คูณกับนโยบายการจ่ายปันผล จะสามารถประมาณการการจ่ายเงินปันผลคร่าว ๆ ได้
  • ประวัติการจ่ายเงินปันผลยอดเยี่ยม ไม่ว่าเศรษฐกิจจะซบเซา เกิดวิกฤต หรือขยายตัว บริษัทจะยินดีจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ
  • โครงสร้างทางการเงินแข็งแกร่ง มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นบวก โดยดูย้อนหลังไปหลาย ๆ ปี เพราะกระแสเงินสดเป็นตัวชี้ว่ามีความสามารถในการจ่ายเงินปันผล
  • หนี้สินต่ำ เราสามารถดูโครงสร้างหนี้สิน ด้วยการดูหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) โดยเฉพาะหนี้สินระยะสั้น หากมีเยอะ ๆ ก็อาจทำให้ความสามารถในการจ่ายเงินปันผลลดลง
  • สภาพคล่องสูง โดยส่วนใหญ่หุ้นปันผลมักมีสภาพคล่องไม่ค่อยสูง เพราะนักลงทุนซื้อเพื่อลงทุนระยะยาว ดังนั้น ควรหาหุ้นปันผลที่มีมาร์เก็ตแคป (Market Cap) ใหญ่พอสมควร เพราะหากต้องการขายก็สามารถทำได้ทันที หรือหากเป็นหุ้นปันผลมาร์เก็ตแคปต่ำ ก็ควรเลือกหุ้นที่มีการกระจายการถือหุ้นโดยผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free Float) มากกว่าเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯกำหนด นั่นคือ มากกว่า 15%
  • ค่าเบต้า (Beta) ต่ำ เป็นปัจจัยที่ใช้เปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้นกับการเคลื่อนไหวดัชนีหุ้น ถ้าเป็นหุ้นปันผลจะมีค่าเบต้าต่ำ นั่นคือ ราคาหุ้นจะผันผวนน้อยกว่าตลาด เช่น หุ้น ABC มีค่าเบต้า 0.7 เท่า หมายความว่า ถ้าดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้น 10% ราคาหุ้น ABC จะขึ้น 7% เช่นกัน ถ้าดัชนีหุ้นปรับลดลง 10% ราคาหุ้น ABC จะปรับลดลง 7%

ข้อมูลจาก : ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)