JKN เคลียร์ปมเบี้ยวหนี้หุ้นกู้-นัดส่งแผน 11 ก.ย. ประกาศหาผู้ร่วมทุน

JKN

JKN เคลียร์ปมเบี้ยวหนี้หุ้นกู้ หลังจัดการสภาพคล่องไม่เป็นไปตามแผน แจ้งนัดส่งแผนจ่ายหนี้หุ้นกู้รุ่น JKN239A วันที่ 11 ก.ย. 66 ผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ยันไม่ได้หนีไปไหน มั่นใจประชุมผู้ถือหุ้นกู้ 27 ก.ย. โหวตผ่านชัวร์ พร้อมประกาศหาผู้ร่วมลงทุนด้วย 3 เงื่อนไข ย้ำช่วงนี้เวอร์จิ้นที่สุด

วันที่ 1 กันยายน 2566 แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป (JKN) เปิดเผยว่า สาเหตุการขอเลื่อนกำหนดชำระหนี้หุ้นกู้รุ่น JKN239A มูลค่า 609.98 ล้านบาท ที่จะครบกำหนดในวันที่ 1 ก.ย. 2566 เนื่องจากบริษัทบริหารจัดการสภาพคล่องทางการเงินไม่ไปตามที่วางแผนไว้ (Liquidity Mismatch) รวมถึงแหล่งเงินทุนไม่มี (Unavailable Sources of Funds)

เนื่องจากการเจรจากับผู้ร่วมทุนของบริษัทไม่เป็นไปตามที่บริษัทคาดหวัง โดยการเจรจาได้มีข้อสรุปเป็นไปในทางลบ เนื่องจากข้อตกลงในสัญญาไม่เป็นธรรม เพราะให้บริษัทต้องเซ็นสัญญาโอนลอยบริษัทบางแห่งทิ้งไว้ให้ด้วย ประกอบกับธุรกิจของ JKN เป็นการลงทุนระยะยาว (Long-term Investment)

แต่ที่ผ่านมาการระดมทุนส่วนใหญ่ใช้แหล่งเงินทุนระยะสั้น (Short-Term Funds) โดยบริษัทระดมทุนหุ้นกู้ส่วนใหญ่อายุแค่ 1-2 ปี ฉะนั้นกำลังแก้ไขเรื่องนี้อยู่ ต่อไปบริษัทจะเปลี่ยนนโยบายหาแหล่งเงินทุนระยะยาวมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีเงินสดพร้อมจะชําระเงินต้นบางส่วนประมาณ 148.05 ล้านบาท และดอกเบี้ย 9.98 ล้านบาท รวมจำนวน 158.03 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 25% ของวงเงินทั้งหมด ในวันครบกําหนดไถ่ถอนหุ้นกู้รุ่นดังกล่าวในวันที่ 1 ก.ย. 2566 โดยคงเหลือยอดค้างชําระอีกจํานวน 451.95 ล้านบาท ทางผู้ถือหุ้นกู้รุ่น JKN239A จะได้รับการทบดอกเบี้ยตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่จะได้รับเงินต้นครบทั้งหมด

Advertisment

โดยผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ (บล.เอเซีย พลัส) จะเป็นผู้ติดต่อผู้ถือหุ้นกู้ภายในวันที่ 11 ก.ย. 2566 ที่จะถึงนี้ พร้อมทั้งบริษัทจะมีการแจ้งแผนผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ และจะมีการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ในวันที่ 27 ก.ย. 2566 ซึ่งมั่นใจว่าแผนที่เสนอไปจะเป็นที่ยอมรับของผู้ถือหุ้นกู้ได้ อย่างไรก็ตาม ต้องกราบขออภัยผู้ถือหุ้นกู้รุ่น JKN239A ทุกท่าน ที่ทำให้ได้รับผลกระทบ

“สำหรับวันที่จะจ่ายเงินที่เลื่อนเราวางแผนไว้หมดแล้ว ไม่ได้หนีไปไหนแน่นอน มั่นใจได้ เพราะธุรกิจทุกสิ่งอย่างของจักรวาลอยู่ที่นี้ เราต้องรับผิดชอบทุกอย่าง แต่ถ้าชำระเงินวันนี้เลย เดินหน้าต่อจะเหนื่อย หรือกระทั่งการแก้ปัญหาระยะสั้นแบบเอาทรัพย์สินหรือบริษัทไปโอนลอยค่อนข้างเสี่ยง เพราะผิดกฎหมาย และเราต้องปกป้ององค์กรของเรา ที่เดินหน้าต่อไปคือการทำธุรกิจ และหาพาร์ตเนอร์ที่อยากเติบโตไปด้วยกัน”

นอกจากนี้ ตั้งแต่ต้นปีเราเจอปัญหาเงินเฟ้อทั่วโลก คนไม่กล้าจับจ่าย กลางปีเจอบริษัทใหญ่เกิดเหตุการณ์ที่กระทบตลาดหุ้นกู้อย่างหนัก หลาย ๆ บริษัทแทบไม่ระดมทุนหุ้นกู้ เพราะตลาดแทบปิด ขณะที่รัฐบาลไทยจัดตั้งล่าช้าเกือบ 3 เดือน เงินทุนต่างชาติไหลออก หรือถอนออกจากประเทศไทยหมด วอลุ่มการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยเกือบแห้งสนิท สิ่งเหล่านี้พาลให้แบงก์ไม่อยากปล่อยกู้ตามมาด้วย” แอน-จักรพงษ์กล่าว

ปัจจุบันขอย้ำว่าหลังจากนี้บริษัทจะหยุดลงทุนแล้ว เพราะธุรกิจค่อนข้างครอบคลุมอีโคซิสเต็มทั้งหมดแล้ว รวมถึงขอประกาศหาผู้ร่วมทุนทั้งสถาบันภายในและนอกประเทศ หรือพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจที่จะจับมือทำธุรกิจเพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องร่วมกับ JKN

Advertisment

โดยธุรกิจทั้งหมดในตอนนี้เราถือหุ้น 100% แต่สิ่งสำคัญต้องมี 3 อย่างคือ 1.มีความสามารถ 2.มีเงินทุน และ 3.มีเครือข่าย ขอย้ำว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่เวอร์จิ้นที่สุด

ปัจจุบัน JKN มีเงินสดในมือหลายร้อยล้านบาท แต่ต้องใช้เพื่อรันธุรกิจ แต่ต้องมีฟันดิ้งมาเสริม และขอยืนยันว่าหุ้นกู้รุ่นอื่น ๆ ยังปกติ ไม่มีปัญหาอะไร อย่างไรก็ดี ในวิกฤตรอบนี้ถือว่าไม่ใหญ่มาก เพราะเคยเจอวิกฤตที่หนักกว่านี้มาแล้ว แต่สิ่งที่ได้เรียนรู้คือเราต้องดูเรื่องฟันดิ้งคือสิ่งที่สำคัญมาก ต้องดูเรื่องเงินให้อย่างรอบคอบและชัดเจน โดยเฉพาะทีมงานที่ต้องทำโอเปอเรชั่นที่ต้องดีขึ้น และต้องหนักหน่วงแข็งแกร่งขึ้น