ttb ลุย “รวบหนี้-สินเชื่อสวัสดิการ” ปักธง 3 ปี ลดภาระดอกเบี้ยลูกค้า 3.6 พันล้าน

นายปิติ ตัณฑเกษม

ttb ลุยกลยุทธ์การสร้างชีวิตทางการเงินของลูกค้าให้ดีขึ้น ชู โปรแกรม “รวบหนี้-สินเชื่อสวัสดิการ” ลดภาาระดอกเบี้ยลูกค้า ตั้งเป้า 3 ปี มีลูกหนี้เข้าร่วม 2 หมื่นคน ลดภาระดอกเบี้ย 2 พันล้านบาท สวัสดิการลดภาระ 3.6 พันล้านบาท

วันที่ 17 กันยายน 2566 นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือทีเอ็มบีธนชาต หรือ ttb เปิดเผยว่า ภายใต้กลยุทธ์หลักของธนาคารในปี 2566 คือ การสร้างชีวิตทางการเงินของลูกค้าให้ดีขึ้น โดยมุ่งเน้น 3 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ กลุ่มมนุษย์เงินเดือน กลุ่มคนมีรถ และกลุ่มคนมีบ้าน

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาจากการเปิดตัวฟีเจอร์ “My Car” บนแอปพลิเคชั่น “ttb touch” ที่ช่วยให้ลูกค้ามีรถสะดวกในการจัดการเรื่องสำคัญเกี่ยวกับรถนั้น ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนใช้งานฟีเจอร์นี้กว่า 5.8 แสนคัน

นอกจากนี้ ธนาคารยังได้พัฒนาแพลตฟอร์ม “รถโดนใจ” (Roddonjai) เพื่อเป็นตัวกลางระหว่างเต๊นท์รถมือสองกับผู้มีความต้องการซื้อรถ โดยในช่วง Soft Launch มีดีลเลอร์เข้ามาใช้งานแล้วมากกว่า 1,200 ราย ซึ่งธนาคารเตรียมที่จะเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบภายในวันที่ 22 กันยายนนี้ 

ขณะที่ในส่วนของกลุ่มคนมีบ้าน ล่าสุด ธนาคารเพิ่งเปิดตัวบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด ttb l Global House สำหรับคนรักบ้าน ได้รับการตอบรับที่ดี มียอดบัตรใหม่รวมราว 3 หมื่นใบ ภายใน 2 เดือน และในเร็ว ๆ นี้ จะมีการเปิดตัวฟีเจอร์ My Home เพื่อให้ลูกค้าสามารถจัดการเรื่องสำคัญเกี่ยวกับบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านแอป ttb touch 

และกลุ่มมนุษย์เงินเดือน ทีทีบีมีเป้าหมายที่จะเป็นมากกว่าบัญชีเงินเดือนสำหรับลูกค้าที่มีการเดืนบัญชีเงินเดือนผ่านธนาคาร (Payroll) ซึ่งธนาคาร ได้มีการเปิดตัวฟีเจอร์ My Tax ผู้ช่วยบริหารจัดการทุกเรื่องภาษี

และล่าสุดได้เริ่มเปิดตัว my work by ttb ระบบบริหารงานบุคคลแบบมืออาชีพ ซึ่งเป็น HRM System ที่จะช่วยลดต้นทุนของฝ่ายบุคคล พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิในการจัดการงานบริหารบุคคลทุกมิติ โดยจะเปิดบริการอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้

“การจัดการเรื่องหนี้สินของคนเป็นอีกเรื่องที่เราให้ความสำคัญ ดังจะเห็นได้จากจำนวนหนี้ครัวเรือนที่สูงมากถึง 90% ของจีดีพีจะทำให้กระทบต่อการการใช้จ่ายที่ดี ซึ่งในส่วนของสถาบันการเงินเองต้องดูแลตั้งแต่เริ่มต้นปล่อยกู้อย่างมีคุณภาพและมีอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม

ซึ่งตรงนี้มองว่า NCB Scoring ยังต้องเป็นตัวช่วยที่สำคัญให้สถาบันเงินประเมินคุณภาพของผู้กู้ ขณะที่ผู้กู้เองก็จะได้อัตราดอกเบี้ยตามคะแนนเครดิตของตนเอง ไม่ใช่อัตราเหมารวมเหมือนปัจจุบัน ส่วนคนที่เป็นหนี้อยู่แล้วธนาคารก็มีโครงการรวบหนี้เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระดังกล่าวอยู่แล้วเช่นกัน

นายฐากร ปิยะพันธ์

ด้าน นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวเสริมว่า ธนาคารได้มีโปรแกรมรวบหนี้ เพื่อเป็นตัวช่วยคนเป็นหนี้ให้มีสภาพคล่อง และลดภาระดอกเบี้ย

โดยได้รับการตอบรับอย่างดี มีลูกค้าเข้าร่วมโปรแกรมรวบหนี้แล้วกว่า 5,000 ราย วงเงินสินเชื่อรวม 3,600 ล้านบาท แบ่งเบาภาระดอกเบี้ยได้มากกว่า 400 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้พบว่าเป็นกลุ่มพนักงานเงินเดือนมากกว่า 95% ที่เข้าร่วมโปรแกรมรวบหนี้ 

โดยธนาคารตั้งเป้าภายใน 3 ปี จะมีลูกค้าเข้าโครงการรวบหนี้ 2 หมื่นคน วงเงินรวบหนี้ 1.8 หมื่นล้านบาท ช่วยลดดอกเบี้ยได้ 2,000 ล้านบาท และช่วยเหลือพนักงานผ่านโครงการสินเชื่อสวัสดิการ ทีทีบี จำนวน 1.5 แสนคน เป็นวงเงิน 3 หมื่นล้านบาท ช่วยลดดอกเบี้ยได้ 3,600 ล้านบาท 

“โครงการรวบหนี้เราทำมาแล้ว 2 ปี ถือว่าคุณภาพลูกหนี้ที่เข้าโครงการค่อนข้างดี และยังเป็นทางเลือกให้ลูกหนี้ลดภาระดอกเบี้ยสูง จากสินเชื่อบุคคล 24-25% มาเหลือ 6-7%

นอกจากนี้จากข้อมูลพบว่าหนี้ส่วนใหญ่ที่มีจะเป็นสินเชื่อบุคคลสัดส่วนถึง 35% บัตรเครดิต 29% รถ 24% และบ้าน 12%

จึงเป็นที่มาของสินเชื่อสวัสดิการ ซึ่งตอนนี้เราสามารถเซ็น MOU แล้ว 600 บริษัท มีพนักงาน 1.26 แสนคน และมีบริษัทที่ต้องกานเข้าร่วมโปรแกรมแต่ไม่อยากใช้ Payroll มีแล้ว 400 บริษัท มีพนักงาน 1.6 แสนราย แต่ทั้ง 2 กลุ่มจะได้รับดอกเบี้ยแตกต่างกัน”