เลขาฯ ก.ล.ต. คนใหม่ ชี้นายกฯ จ่อตั้งคณะทำงานบังคับใช้กฎหมายเอาผิดปมหุ้น MORE

กลต MORE

ก.ล.ต. แจ้งความคืบหน้าการดำเนินการกรณี MORE ยันตรวจสอบการกระทำความผิด-กล่าวโทษตามกระบวนการไปแล้วทั้งหมด “เลขาธิการ ก.ล.ต.คนใหม่” เผยนายกรัฐมนตรีจ่อลงนามตั้งคณะทำงานร่วมบังคับใช้กฎหมายเอาผิด ทั้งฐานความผิดการสร้างราคาหลักทรัพย์-ฐานความผิดอื่น ๆ

วันที่ 4 ตุลาคม 2566 รายงานจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า มีความคืบหน้าการดำเนินการกรณี MORE โดยตรวจสอบการกระทำความผิดและกล่าวโทษตามกระบวนการไปแล้วทั้งหมด พร้อมดำเนินการตามกฎหมายต่อไปหากมีพยานหลักฐานเพิ่มเติม รวมทั้งประสานความร่วมมือกับ DSI ภายใต้คณะทำงานเพื่อการบูรณาการการบังคับใช้กฎหมาย

ทั้งนี้ ตามที่ ก.ล.ต.ได้เร่งรัดการดำเนินการนำผู้กระทำผิดฐานสร้างราคาหลักทรัพย์เข้าสู่กระบวนการบังคับใช้กฎหมายมาโดยตลอด นับตั้งแต่เหตุการณ์การสร้างราคา หรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) (MORE) ระหว่างเดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน 2565 นั้น

ที่ผ่านมา ก.ล.ต.ได้กล่าวโทษผู้กระทำความผิดฐานสร้างราคาหลักทรัพย์ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ และวันที่ 27 มิถุนายน 2566 จำนวน 18 ราย และ 32 ราย ตามลำดับ

โดยปัจจุบันกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้รับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษแล้ว และ ก.ล.ต.ส่งข้อมูลไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อพิจารณาและมีการประสานการทำงานร่วมกันด้วยแล้ว

นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต.เปิดเผยว่า จากการติดตามความคืบหน้าของคดี MORE เมื่อเข้ารับตำแหน่งตั้งแต่ช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และได้มีการประสานความร่วมมือกับ DSI นั้น โดย DSI อยู่ระหว่างการแต่งตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อบูรณาการการบังคับใช้กฎหมายในฐานความผิดที่เกี่ยวกับหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงฐานความผิดการสร้างราคาหลักทรัพย์ที่ ก.ล.ต.ได้ดำเนินการกล่าวโทษไปด้วย

ADVERTISMENT

“ในส่วนของการให้ข้อมูลเพื่อดำเนินคดีนั้น DSI ได้ประสานงานให้ ก.ล.ต.เข้าให้ข้อมูลแล้ว ทั้งนี้ ตามกระบวนแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อบูรณาการการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว นายกรัฐมนตรีจะลงนามในคำสั่งแต่งตั้งต่อไป”

สำหรับประเด็นที่มีการสอบถามในเรื่องการนำตัวผู้กระทำผิดเพิ่มเติมเพื่อเข้าสู่กระบวนการบังคับใช้กฎหมาย
ฐานสร้างราคาหลักทรัพย์นั้น ที่ผ่านมา ก.ล.ต.ได้ตรวจสอบการกระทำความผิดและกล่าวโทษไปแล้วทั้งหมดตามพยานหลักฐานที่ปรากฏในการตรวจสอบตามกระบวนการแล้ว

ADVERTISMENT

“ก.ล.ต.ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ และได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในส่วนที่มีผู้ให้เบาะเสเพิ่มเติมนั้น ในฐานะเลขาธิการ ก.ล.ต.จะติดตามดูแล และหากมีพยานหลักฐานที่จะดำเนินการตามกฎหมายได้ ก.ล.ต.จะดำเนินการต่อไป” เลขาธิการ ก.ล.ต.กล่าว