MORE ไตรมาส 2 ขาดทุนต่อเนื่อง 1.26 ล้านบาท

MORE

บมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) เผยผลดำเนินการไตรมาส 2/66 ขาดทุนสุทธิ 1.26 ล้านบาท กำไรลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 104.72% โดยส่วนใหญ่ลดลงมาจากการยกเลิกสัญญาจ้างบริหารจัดการบุคลากรและศูนย์ USO ตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2566

วันที่ 9 สิงหาคม 2566 นางสาววรรณิศา ศรีสุไชย ผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานและฐานะการเงินรวมของบริษัทและบริษัทย่อย ประจำไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2566 เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันปีก่อนหน้า (YOY) ดังต่อไปนี้

ผลการดำเนินงานสำหรับงวดสามเดือน

สำหรับผลการดำเนินงานสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2566 จะเห็นได้ว่า บริษัทมีขาดทุนสุทธิของงบการเงินรวมจำนวน 1.26 ล้านบาท คิดเป็น 6.04% ของรายได้รวมเมื่อเปรียบเทียบกับงวดก่อน พบว่า บริษัทมีกำไรสุทธิลดลงจำนวน 27.97 ล้านบาท หรืออัตราลดลง 104.72% ส่วนใหญ่ลดลงมาจาก

(1) กำไรจากการวัดมูลค่าใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ เป็นจำนวน 25.66 ล้านบาท

(2) รายได้จากการให้บริการจำนวน 10.62 ล้านบาท หรืออัตราลดลงร้อยละ 96.50 เนื่องจากบริษัทย่อยยกเลิกสัญญาจ้างบริหารจัดการบุคลากรและดูแลศูนย์ USO ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565

Advertisment

ในส่วนของงบการเงินรวมบริษัทมีรายได้หลักจากการประกอบธุรกิจรวมเป็นจำนวน 17.13 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย

(1) รายได้จากส่วนงานบริการจำนวน 0.39 ล้านบาท

(2) รายได้ส่วนงานสาธารณูปโภค จำนวน 16.74 ล้านบาท คิดเป็น 2% และ 98% ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับงบการเงินงวดเดียวกันของปีก่อน บริษัทมีรายได้รวมทุกส่วนงานลดลงเป็นจำนวน 17.42 ล้านบาทหรืออัตราลดลง 50.42%

ส่วนใหญ่รายได้ลดลงจากงวดก่อน มาจากส่วนงานบริการจากการที่บริษัทย่อยยกเลิกสัญญาจ้างบริหารจัดการบุคลากรและดูแลศูนย์ USO ต้้งแต่เดือนมิถุนายน 2565 เป็นต้นไป ส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากส่วนงานบริการมีสัดส่วนเปลี่ยนแปลงไปจากอัตรา 32% เป็น 2% ของรายได้รวม ซึ่งจะเห็นได้ว่ารายได้ส่วนงานบริการนั้นมียอดลดลงจากงวดก่อนจำนวน 10.62 ล้านบาท หรืออัตราลดลง 96.50%

Advertisment

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีสัดส่วนรายได้ของส่วนงานสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้น จากอัตรา 42% เป็น 98% และมีสัดส่วนรายได้มากที่สุด เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ส่งผลทำให้มีการใช้น้ำในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้นจากงวดก่อน ทำให้รายได้ส่วนงานสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้นจำนวน 2.21 ล้านบาท หรืออัตราเพิ่มขึ้น 15.17%

ผลการดำเนินงานสำหรับงวดหกเดือน

ขณะที่สำหรับผลการดำเนินงานสำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2566 จะเห็นได้ว่า บริษัทมีขาดทุนสุทธิของงบการเงินรวม จำนวน 2.65 ล้านบาท คิดเป็น 6.81% ของรายได้รวมเมื่อเปรียบเทียบกับงวดก่อน พบว่า บริษัทมีกำไรสุทธิลดลงจำนวน 31.77 ล้านบาท หรืออัตราลดลง 109.09% ส่วนใหญ่ลดลงมาจาก

(1) กำไรจากการวัดมูลค่าใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเป็นจำนวน 25.66 ล้านบาท

(2) รายได้จากการให้บริการจำนวน 26.76 ล้านบาท หรืออัตราลดลง 97.52% เนื่องจากบริษัทย่อยยกเลิกสัญญาจ้างบริหารจัดการบุคลากรและดูแลศูนย์ USO ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565

อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานสำหรับงวดหกดือนสิ้นสุด 30 มิถุนายน 2566 บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจากงวดก่อนจากส่วนงานสาธารณูปโภคในการจำหน่ายน้ำประปาเพิ่มขึ้นจำนวน 8.14 ล้านบาท หรืออัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 35.36 และบริษัทยังมีกำไรขั้นต้นในไตรมาสนี้

ฐานะทางการเงิน

ในงบการเงินรวม บริษัทมีสินทรัพย์รวม จำนวน 1,902.68 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับงบการเงินของปี 2565 บริษัทมีสินทรัพย์รวม จำนวน 2,002.20 ล้านบาท ซึ่งมียอดลดลงจำนวน 99.52 ล้านบาท หรืออัตราลดลง 4.97%

สำหรับสินทรัพย์รวมที่ลดลงจากปี 2565 มาจากสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนลดลงจำนวน 80.28 ล้านบาท เนื่องจากตราสารทุน-หลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญมีมูลค่าลดลงจากปีก่อน

ในส่วนหนี้สินรวม บริษัทมีหนี้สินรวม จำนวน 108.57 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับงบการเงินของปี 2565 ซึ่งลดลงจากปีก่อนมาจากหนี้สินหมุนเวียนลดลงจำนวน 18.37 ล้านบาท หรืออัตราลดลง 15.21% เนื่องจากบริษัทได้มีจ่ายชำระดอกเบี้ยค้างจ่ายและเจ้าหนี้ค่าวางท่อของบริษัทย่อย ส่งผลให้หนี้สินหมุนเวียนในงบการเงินรวมลดลงในไตรมาสนี้

สำหรับส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่ บริษัทมีส่วนของผู้ถือหุ้น จำนวน 1,775.79 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับงบการเงินของปี 2565 ลดลงจากปีก่อน เป็นจำนวน 78.80 ล้านบาท หรืออัตราลดลง 4.25% เนื่องจากหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯและใบสำคัญแสดงสิทธิมีมูลค่าลดลง ทำให้องค์ประกอบอื่นของผู้ถือหุ้นลดลงเป็นจำนวน 78.53 ล้านบาท หรืออัตราลดลง 18.68%