เกาะติดกำไร “กลุ่ม ปตท.” Q4 โตแผ่ว-“โรงกลั่น-ปิโตรฯ” ฉุด

ptt

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 ออกมามีกำไรสุทธิ 740,814 ล้านบาท ลดลง 11% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) ที่ทำได้ 828,271 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลกระทบจากราคาน้ำมันและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลต่อธุรกิจพลังงาน ปิโตรเคมีภัณฑ์ รวมถึงธุรกิจที่มีการส่งออก

โดยกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค มีกำไรสุทธิ 249,401 ล้านบาท ลดลง 17%YOY และสำหรับหุ้นในกลุ่ม ปตท. ทั้ง 7 บริษัท ประกอบด้วย 1.บมจ.ปตท. (PTT) 2.บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) 3.บมจ.ไทยออยล์ (TOP) 4.บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) 5.บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ซินเนอร์ยี่ (GPSC) 6.บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC)

และ 7.บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) พบว่า มีกำไรสุทธิรวมกัน 164,710 ล้านบาท ลดลง 0.8% และเฉพาะงวดไตรมาส 3/2566 มีกำไรสุทธิ 71,051 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 291.7%

โรงกลั่น-ปิโตรฯ กำไรแผ่วฉุด Q4

“เอกรินทร์ วงษ์ศิริ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทรีนีตี้ จำกัด กล่าวว่า ประเมินแนวโน้มกำไรสุทธิหุ้นกลุ่ม ปตท. ช่วงไตรมาส 4/2566 ธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมีน่าจะอ่อนตัวลง เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนหน้า (QOQ) ทั้ง TOP และ IRPC เพราะไตรมาส 3/2566 ถือเป็นจุดพีก (สูงสุด) ของอัตรากำไรขั้นต้นจากการผลิตของบริษัท (Gross Integrated Margin : GIM) และมีกำไรสต๊อกน้ำมัน (Stock Gain)

ขณะที่ OR มีโอกาสที่กำไรจากธุรกิจน้ำมันและธุรกิจไลฟ์สไตล์ จะซอฟต์ลง QOQ เช่นกัน เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น QOQ ประกอบกับผลประโยชน์ Stock Gain ในไตรมาส 3/2566 จะหายไปบางส่วนจากราคาน้ำมันที่ร่วงลง

PTTGC บันทึกกำไร 2.6 พันล้าน

“เอกรินทร์” กล่าวอีกว่า สำหรับ PTTGC มองว่าจะมีกำไรสุทธิเป็นบวกได้เมื่อเทียบ QOQ แตกต่างจาก TOP, IRPC เนื่องด้วยมีรายการพิเศษ โดยล่าสุดประกาศขายหุ้น บริษัท จีซี โลจิสติกส์ โซลูชั่นส์ จำกัด (GCL)

ซึ่งเป็นบริษัทย่อยให้กับบริษัท ดับบลิวเอชเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (WHAVH) บริษัทย่อยของ บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) ในสัดส่วน 50% คิดป็นมูลค่า 2,640 ล้านบาท เพื่อปรับโครงสร้างการถือหุ้นในธุรกิจโลจิสติกส์สำหรับธุรกิจโพลิเมอร์

ขณะที่ธุรกิจ PTTEP คาดว่ายังมีกำไรเป็นบวกได้เล็กน้อย เมื่อเทียบ QOQ เพราะมียอดขายเพิ่มขึ้น เพียงแต่ช่วงนี้อาจถูกกดดันจากราคาน้ำมันร่วง ทำให้ภาพรวมกำไรกลุ่ม ปตท. คาดการณ์เบื้องต้นจะซอฟต์ลงเล็กน้อยเมื่อเทียบ QOQ โดยคาดการณ์กำไรสุทธิของหุ้นกลุ่ม ปตท. ในสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 2.1 แสนล้านบาท (ไม่รวม GPSC)

ตาราง ปตท

ราคาน้ำมันไม่หลุด 80 เหรียญ

ทั้งนี้ ประเมินทิศทางราคาน้ำมันสิ้นปีนี้ไม่น่าจะหลุดระดับ 80 เหรียญ/บาร์เรล ส่วนภาพแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปี 2567 ประเมินช่วงครึ่งปีแรกจะมีทิศทางที่ดีตามธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หยุดขึ้นดอกเบี้ย ทำให้นโยบายการเงินมีความผ่อนคลายมากขึ้น ขณะที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) คาดการณ์ช่วงไตรมาส 1/2567 ตัวซัพพลายน้ำมันยังน้อยกว่าดีมานด์

ต้นทุนก๊าซลดหนุนกำไรปี’67-68

ขณะที่ “จักร เรืองสินภิญญา” กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บมจ.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า คาดว่าธุรกิจของ PTT จะมีกำไรเติบโต 17% ในปี 2567 และเติบโต 14% ในปี 2568 โดยได้แรงหนุนจากต้นทุนก๊าซที่ลดลง และคาดว่าผลผลิตในประเทศที่เพิ่มขึ้นจากแหล่งก๊าซเอราวัณจะช่วยลดต้นทุนก๊าซ เนื่องจากเสนอราคาที่น่าดึงดูดใจมากภายใต้สัญญาแบ่งปันผลผลิตฉบับใหม่ (PSC) ขณะเดียวกันราคาก๊าซ LNG ทั่วโลกที่ลดลงก็ช่วยลดต้นทุนการนำเข้าก๊าซของ PTT

“แม้ว่าการอุดหนุนราคาต้นทุนก๊าซที่ดำเนินอยู่จะไม่ส่งผลกระทบต่องบกำไรขาดทุนในตอนนี้ แต่ก็อาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นหากบริษัทถูกบีบให้อุดหนุนเป็นเวลานาน”

กำไรเพิ่มขึ้นจากบริษัทในเครือ

ทั้งนี้ “จักร” กล่าวด้วยว่า คาดว่าบริษัทย่อยของ PTT จะมีการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในปี 2568 โดยได้รับแรงหนุนจาก TOP จากค่าการกลั่น (GRM) ที่สูงและการอัพเกรดโรงกลั่นจากปี 2568 และ PTTEP ซึ่งได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันที่สูงและปริมาณเติบโตแข็งแกร่ง

นอกจากนี้ ยังประเมินว่า GPSC จะได้รับอานิสงส์จากราคาก๊าซที่ลดลง และการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าอีกด้วย

ขณะที่ PTTGC จะเป็นตัวฉุดกำไร เนื่องจากมองว่าส่วนต่างราคาปิโตรเคมีจะฟื้นตัวช้า ทั้งนี้ ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทลูกมีสัดส่วน 66% ของกำไรปี 2567 ของ PTT ตามประมาณการของบริษัท

ราคาหุ้น PTT น่าสนใจ-ปันผลสูง

“จักร” กล่าวอีกว่า PTT ยังมีมูลค่าหุ้นที่น่าสนใจ โดยซื้อขายที่อัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E) ปี 2567 ที่ 9 เท่า และอัตราส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (P/BV) ที่ 0.8 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ 1.2 เท่า

นอกจากนี้ คาดว่า PTT จะยังคงรักษาอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 50% คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจที่ระดับ 5.3%, 5.4% และ 6.2% ในปี 2566-2568