บาทผันผวนในกรอบแคบ ขณะตลาดรอติดตามเงินเฟ้อสหรัฐสัปดาห์นี้

เงินบาท

ค่าเงินบาทผันผวนในกรอบแคบ ขณะตลาดรอติดตามเงินเฟ้อสหรัฐสัปดาห์นี้

วันที่ 9 มกราคม 2567 ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพรายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันอังคารที่ 9 มกราคม 2567

ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (09/01) ที่ระดับ 34.87/89 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (08/01) ที่ระดับ 34.98/99 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ หลังเมื่อวานนี้ค่าเงินบาทอ่อนค่าอย่างรวดเร็ว แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบสามสัปดาห์ จากการแสดงความคิดเห็นของนายเศรษฐา ทวีสิน เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

อย่างไรก็ดี ในช่วงเวลาต่อมา หลังตลาดสหรัฐเปิดทำการ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้ปรับตัวอ่อนค่าลงตามทิศทางของผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวลดลง ทำให้ในระหว่างวันนี้ค่าเงินบาทผันผวนในกรอบแคบ เนื่องจากตลาดยังคงไร้ปัจจัยใหม่ และตลาดยังคงจับตาดูตัวเลขเงินเฟ้อ หรือดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ธ.ค. ของสหรัฐในวันพฤหัสบดีอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

สำหรับปัจจัยในประเทศ เมื่อวานนี้เงินบาทอ่อนค่าอย่างรวดเร็ว กว่า 0.8% แตะระดับ 35.10 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เขียนข้อความแสดงความคิดห็นผ่านทางโซเชียลมีเดีย ในเชิงที่ไม่เห็นด้วยที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งที่ตัวเลขเงินเฟ้อไทยติดลบติดต่อกันหลายเดือน

ในส่วนของเงินลงทุนจากต่างประเทศ เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรไทยสุทธิ 4,791 ล้านบาท และขายหุ้นไทยสุทธิ 270.77 ล้านบาท ในวันนี้ยังคงไร้ปัจจัยสำคัญ ทำให้ค่าเงินบาทปรับตัวผันผวนในทิศทางแข็งค่าและในกรอบแคบ แต่อาจได้อานิสงส์จากนักลงทุนต่างชาติที่มองหาความเสี่ยงมากขึ้น ประกอบกับผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวลดลง วันนี้นักลงทุนต่างชาติจึงเข้าซื้อพันธบัตรไทยสุทธิ 1,785 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยยังคงติดลบสุทธิ 270.77 ล้านบาท

สำหรับปัจจัยในภูมิภาค ในระยะนี้ตลาดยังคงติดตามปัญหาของสถาบันทางการเงินในประเทศจีน โดยธนาคารเงายักษ์ใหญ่ของจีน หรือจงจื่อ เอ็นเตอร์ไพรส์ กรุ๊ป (Zhongzhi Enterprise Group) ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างหนัก ซึ่งเป็นผลจากการปล่อยกู้ให้กับภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน ซึ่งประสบปัญหามาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว

อนึ่งธนาคารเงา หรือ Show Bank เป็นสถาบันการเงินนอกระบบ และไม่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลจากหน่วยงานของรัฐบาล ทำให้ธนาคารเงาไม่ถูกตรวจสอบด้านความเสี่ยง สภาพคล่อง และฐานะเงินทุนเมื่อเทียบกับธนาคารในระบบ ดังนั้นหากรัฐบาลจีนไม่สามารถจัดการปัญหานี้ได้ และปล่อยให้ปัญหาลุกลาม นั่นก็จะส่งผลถึงสกุลเงินบาท ซึ่งมีความสัมพันธ์กับเงินหยวนอย่างใกล้ชิด จากการพึ่งพาเศรษฐกิจจีนของไทย

สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร เปิดตลาดเช้าวันนี้ (08/01) ที่ระดับ 1.0954/58 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร แข็งค่าเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (08/01) ที่ระดับ 1.0940/44 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร โดยระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 11.0937/66 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.0943/44 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน เปิดตลาดเช้าวันนี้ (08/01) ที่ระดับ 143.87/90 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (28/12) ที่ระดับ 144.32/37 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 143.41/144.31 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 143.95/98 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยปัจจัยหนุนเยนจากมุมมองของนักลงทุนที่ว่า ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐจะปรับตัวแคบลง ทำให้มีแรงเทขายดอลลาร์ออกมา

ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขนำเข้าและส่งออกเดือน พ.ย. (09/01), ดุลการค้าเดือน พ.ย. (09/01), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (11/01), ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ธ.ค. (11/01), ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ธ.ค. (12/01)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -8.75/-8.3 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -8.9-7.1 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ