InnovestX ชี้เป้า 5 หุ้นเด่นไตรมาส 2 แนะเข้าซื้อดัชนีต่ำกว่า 1,400 จุด

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ แนะหุ้นเด่นไตรมาส 2/67 เน้นโฟกัสหุ้นที่ผลประกอบการทำจุดต่ำสุดแล้ว-ได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ย อย่าง AOT-GFPT-GULF-KCE-SCGP แนะจังหวะเข้าซื้อดัชนีต่ำกว่า 1,400 จุด พร้อมชี้เป้า SET สิ้นปี 1,550 จุด

วันที่ 27 มีนาคม 2567 นายสิทธิชัย ดวงรัตนฉายา นักกลยุทธ์อาวุโสตลาดหุ้นไทยและต่างประเทศ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด เผยถึง กลยุทธ์การลงทุนไตรมาส 2 ปี 2567 ว่า กลยุทธ์การลงทุนของเรา คือ โฟกัสไปที่หุ้นที่ผลประกอบการทำจุดต่ำสุดไปแล้วและเริ่มปรับตัวดีขึ้น

ทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มเห็นสัญญาณการปรับเปลี่ยนน้ำหนักการลงทุน (Rotation) จากตลาดเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว (Developed Market) ไปยังตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) และเม็ดเงินลงทุนใหม่จะมุ่งเน้นไปที่กลุ่ม non-tech และกลุ่มวัฏจักรมากขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป โดยกลุ่มเทคโนโลยียังมีความน่าสนใจอย่าง TSMC, ASML, Microsoft, Alphabet ในขณะที่ Non-tech และกลุ่มวัฏจักรได้แก่ Airbus, Home Depot, Pfizer, Walt Disney, China Mobile, Baidu, CATL”

สำหรับตลาดหุ้นไทยประเมินเป้าหมาย SET Index อยู่ที่ 1,550 จุด แนะจุดเข้าซื้อที่สำคัญอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 1,400 จุด ผลตอบแทนที่คาดหวังอยู่ที่ 12% ชี้เป้าหุ้นเด่นไตรมาส 2 ปี 2567 เน้นโฟกัสหุ้นที่ผลประกอบการทำจุดต่ำสุดแล้วและได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ย มีฐานะการเงินและกระแสเงินสดที่ดี ผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างชัดเจน และได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของวงจรการผลิตภาคอุตสาหกรรมและการเบิกจ่ายงบประมาณ ได้แก่ AOT GFPT GULF KCE และ SCGP

ด้านนาย นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด กล่าวว่าสำหรับกลยุทธ์การลงทุนระยะยาว เรายังแนะนำกลยุทธ์การลงทุนแบบ DCA (Dollar-Cost-Averaging) เนื่องจากตลาดหุ้นไทยยังถือว่าฟื้นตัวช้ากว่าตลาดหุ้นภูมิภาค ราคาหุ้นอยู่ในระดับที่ Undervalue มาก เราคาดว่า SET Index จะยังคงมีความผันผวน การลงทุนแบบ DCA ในช่วงนี้จึงถือเป็นจังหวะที่ดีที่สุด เนื่องจากความเสี่ยงลดลงไปมากและโอกาสทำกำไรในอนาคตค่อนข้างสูง

“โดยเกณฑ์การพิจารณาหุ้นสำหรับ DCA เข้าพอร์ตควรเป็นหุ้นที่พื้นฐานดี ราคา Undervalue มีผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง ได้แก่ BBL, BDMS, BEM, CPALL, PTT และ SCC นอกจากนั้นเรายังมีคำแนะนำสำหรับพอร์ตการลงทุนแบบ 2 สัปดาห์ (Bi-weekly Portfolio) และหุ้นเด่นประจำวัน (Daily Top picks)”

นายพยนต์ พงศาวรี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงานฝ่าย Wealth Products and Strategy บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด เผยมุมมองด้านการจัดสรรสินทรัพย์ (Asset Allocation) ว่า การลงทุนรายสินทรัพย์ในไตรมาส 2 เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อตราสารหนี้ ซึ่งนอกจากจะมีอัตราผลตอบแทนในปัจจุบันที่น่าสนใจ ประกอบกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลกที่จะเป็นผลบวกต่อราคาตราสารหนี้แล้ว ยังถือเป็นตัวช่วยกระจายความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนได้ด้วยเช่นกัน โดยเน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีเป็นหลัก และหลีกเลี่ยงการลงทุนตราสารหนี้ที่มีคุณภาพสินทรัพย์ในระดับต่ำ

แนะนำกองทุน UGIS-N ที่ลงทุนผ่านกองทุนหลัก PIMCO GIS Income Fund ลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพสูงทั่วโลก ในขณะที่ตราสารทุน เราปรับมุมมองการลงทุนต่อหุ้นสหรัฐ จากระดับระมัดระวังขึ้นมาเป็นระดับเป็นกลาง (Neutral) โดยถึงแม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะมีแนวโน้มชะลอตัว แต่เมื่อพิจารณาแนวโน้มผลดำเนินงานพบว่ามีการปรับประมาณการกำไร (Earning Revision) ขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับหุ้นในตลาดเกิดใหม่โดยภาพรวมถึงแม้ว่าจะมีมูลค่าหุ้น (Valuation) อยู่ในระดับที่น่าสนใจ แต่เรายังแนะนำให้เลือกลงทุนเฉพาะบางตลาดที่มีปัจจัยสนับสนุนเฉพาะตัว และ Valuation ยังไม่ได้แพงมากเกินไป เช่น ตลาดหุ้นไทย เวียดนาม และเกาหลีใต้ แนะนำกองทุน TISCOHD-A ที่เน้นลงทุนในหุ้นไทยขนาดใหญ่ปันผลสูงคุณภาพ ผสมผสานกับกองทุน ASP-SME-A ลงทุนในหุ้นไทยขนาดกลางขนาดเล็กเติบโตสูง กองทุน Principal VNEQ-A ลงทุนในหุ้นเวียดนามที่มีศักยภาพในการเป็นผู้ชนะในระยะยาว

สอดคล้องไปกับการเติบโตเชิงโครงสร้าง และกองทุน SCBKEQTG ลงทุนในหุ้นเกาหลีใต้ อาทิ Samsung ผู้ผลิต Memory Chip อันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งได้ประโยชน์จากการส่งออกในกลุ่ม Semiconductor ที่เติบโต โดยการลงทุนในกองทุนไทยเหล่านี้นอกจากจะช่วยกระจายเสี่ยงของพอร์ตแล้ว นักลงทุนไม่ต้องกังวลเรื่องภาษีต่างประเทศอีกด้วย

InnovestX

InnovestX