บางกอกโพสต์ Q1/67 ขาดทุน 26 ล้าน เหตุปรับโครงสร้างหนี้-คุมค่าใช้จ่าย

บางกอกโพสต์

บางกอกโพสต์ ไตรมาส 1/67 ขาดทุนเบ็ดเสร็จรวม 26.8 ล้าน ลดลง 31.8% สาเหตุจากการปรับโครงสร้างหนี้-ควบคุมค่าใช้จ่าย รายได้สื่อสิ่งพิมพ์และโฆษณาลดลง 3.3% พร้อมเผยความคืบหน้าการแก้ไขฐานะการเงิน แย้มกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจ ไปจนถึงการขยายช่องทางการขายที่จะช่วยสร้างรายได้ให้กับบริษัท

วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 นายวศิน โชติรวี หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินและบัญชี และเลขานุการบริษัท บริษัท บางกอก โพสต์ จำกัด (มหาชน) หรือ POST รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าผลประกอบการของงบการเงินรวม (สอบทานแล้ว) สำหรับไตรมาส 1/2567 บริษัทมีผลขาดทุนเบ็ดเสร็จรวมจำนวน 26.8 ล้านบาท ลดลง 1.25 ล้านบาท หรือลดลง 31.8% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) โดยสาเหตุหลัก ๆ มาจากการปรับปรุงโครงสร้างการดำเนินการและการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ บริษัทขอชี้แจงผลประกอบการ โดยมีรายได้จากการขายและบริการรวม สำหรับไตรมาส 1/2567 จำนวน 60.3 ล้านบาท ลดลง 10.5 ล้านบาท หรือลดลง 15% YOY รายได้ของสื่อสิ่งพิมพ์และโฆษณารวมจำนวน 43.7 ล้านบาท ลดลง 1.5 ล้านบาท หรือลดลง 3.3% YOY

ต้นทุนขายและบริการรวมจำนวน 54.6 ล้านบาท ลดลง 10.8 ล้านบาท หรือลดลง 16.5% เนื่องจากการปรับลดต้นทุนการผลิตหนังสือพิมพ์และนิตยสารให้เหมาะสมกับยอดขายที่เปลี่ยนแปลง

ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารรวมจำนวน 28.8 ล้านบาท ลดลง 5.2 ล้านบาท หรือลดลง 15.3%

Advertisment

ด้านต้นทุนทางการเงินรวมจำนวน 5.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 34.9% เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจากสถาบันการเงิน

“บริษัทมีการปรับตัวด้านการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และแข่งขันกับคู่แข่งทางการตลาดและเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสถาบันการเงินต่าง ๆ เป็นอย่างดี และสามารถชำระดอกเบี้ยและชำระคืนเงินต้นตรงตามกำหนดเวลา”

ทั้งนี้ บริษัทจะยังคงพยายามรักษาฐานลูกค้าหนังสือพิมพ์ ขยายการเผยแพร่เนื้อหาบนช่องทางออนไลน์ รวมทั้งควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นต่อการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง

สำหรับความคืบหน้าของการแก้ไขการดำเนินงานและฐานะการเงิน มีรายละเอียดดังนี้

Advertisment

1.การปรับโครงสร้างหนี้ : ภาระดอกเบี้ยของบริษัทในไตรมาส 1/2567 เพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาท เทียบ YOY โดยมีดอกเบี้ยจ่ายคงเหลือ 5.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.9% จากปีก่อนในไตรมาส 1 เนื่องจากการปรับอัตราดอกเบี้ยของสถาบันการเงิน

ทั้งนี้ สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 2567 บริษัทยังคงมีภาระหนี้คงเหลือกับเจ้าหนี้สถาบันการเงินเพียง 1 ราย จำนวน 156.4 ล้านบาท โดยเป็นเงินกู้ระยะสั้น และมีภาระหนี้กับผู้ถือหุ้นรายใหญ่จำนวน 195 ล้านบาท โดยบริษัทยังคงมีความสามารถในการชำระคืนดอกเบี้ยตามกำหนด

2.การควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นต่อการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง : ในไตรมาสแรกปีนี้บริษัทได้พยายามควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากผลการดำเนินงานโดยมีการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่าย ทำให้บริษัทมีต้นทุนขายและบริการลดลงถึง 16.1% ทำให้บริษัทมีผลขาดทุนลดลง 12.5 ล้านบาท หรือลดลง 31.8% YOY

3.การเพิ่มช่องทางการขายและเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ : บริษัทได้ดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพ ประสิทธิผลในการบริหารงานด้านต่าง ๆ เช่น การส่งเสริมการขายและการตลาด การเพิ่มรายได้ในช่องทางต่าง ๆ โดยเน้นช่องทางออนไลน์ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและแข่งขันกับคู่แข่งในการตลาดและเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

4.การศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินธุรกิจใหม่และการขยายฐานลูกค้าในธุรกิจเดิม : บริษัทกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจของบริษัท ไปจนถึงการขยายช่องทางการขายที่จะช่วยสร้างรายได้ให้กับบริษัท นอกจากนี้ บริษัทยังวางแผนที่จะใช้จุดเด่นของบริษัทจัดการเป็นผู้ผลิตสื่อข่าวภาษาอังกฤษเพียงรายเดียวในประเทศไทย

เพื่อขยายฐานลูกค้าในภาคธุรกิจที่เป็นกลุ่มผู้ประกอบการจากต่างประเทศ หรือผู้ประกอบการชาวไทยที่ดำเนินธุรกิจกับต่างประเทศ ไปจนถึงหน่วยงานภาครัฐทั้งไทยและต่างประเทศ

และล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2567 เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 มีมติอนุมัติการแต่งตั้ง ศ.ดร.วิษณุ เครืองาม ให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท แทนนายสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ โดยนายสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ ยังคงดำรงตำแหน่งกรรมการ และประธานกรรมการบริหารของบริษัท ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป

และที่ประชุมได้รับทราบการลาออกของ ศ.ดร.พรชัย ขุนหจินดา จากการเป็นกรรมการอิสระ และประธานกรรมการตรวจสอบของบริษัท ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป