คอลัมน์ : สถานีลงทุน ผู้เขียน : สวภพ ยนต์ศรี บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด
ตั้งแต่เข้าสู่เดือนเมษายนตลาดหุ้นจีนฟื้นตัวขึ้นได้ดีอย่างชัดเจน โดยมีหลายปัจจัยสนับสนุนทั้งจากเศรษฐกิจจีนที่เริ่มฟื้นตัวได้ดีขึ้น และเม็ดเงินทั้งจากนักลงทุนจีนและนักลงทุนต่างชาติที่ไหลกลับเข้าไปลงทุนในหุ้นจีนหลังจากที่ Valuation ของตลาดหุ้นจีนอยู่ในระดับที่ถูกมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต
และเมื่อเทียบกับอีกหลายตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้ อีกทั้งนักลงทุนยังมีความเชื่อมั่นมากขึ้นหลังจากที่รัฐบาลจีนออกมาตรการอย่างการกระตุ้นเศรษฐกิจและการสนับสนุนตลาดหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการคาดการณ์การเติบโตของกำไรในบริษัทจดทะเบียนของจีนก็มีการปรับเพิ่มขึ้นตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
- หวยออกงวด 16 มิ.ย. ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล-สถิติหวยย้อนหลัง 10 ปี
- วิธียืนยันตัวตน แอปทางรัฐ ผ่าน 7-11 รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ทำอย่างไร
- เปิดเหตุผล ทำไม ฮาตาริ ตัดสินใจรีแบรนด์ครั้งใหญ่รอบ 34 ปี แม้ถือมาร์เก็ตแชร์ 70%
นอกจากปัจจัยบวกที่ได้กล่าวมาแล้วยังมีอีกหนึ่งปัจจัยสนับสนุนที่นักลงทุนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่ทราบก็คือ การจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียนในจีนที่เพิ่มสูงขึ้น โดยปกติแล้ว การจ่ายเงินปันผลมักจะทำให้ราคาหุ้นมีโอกาสที่จะปรับตัวลดลง แต่การจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียนของจีนที่เพิ่มขึ้นนับเป็นผลดี เนื่องจากที่ผ่านมาอัตราการจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในตลาดหุ้นจีนถือว่าอยู่ในระดับต่ำกว่าตลาดหุ้นในอีกหลายประเทศ
โดยในช่วงระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน 2024 ที่ผ่านมา มีบริษัทกว่า 3,800 บริษัท หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 72% ของบริษัทในหุ้นจีน A-Shares (หุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดเซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้น) ได้ประกาศจ่ายเงินปันผล เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว หลังจากที่สัดส่วนของบริษัทหุ้นจีนที่มีการประกาศจ่ายเงินปันผลได้ลดลงต่ำกว่าระดับ 70% ในปี 2019-2022 ซึ่งเป็นช่วงเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19
ด้านจำนวนเงินปันผลของบริษัทจีน ซึ่งนับรวมทั้งบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ และบริษัทที่จดทะเบียน 2 แห่ง ได้แก่ ตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่และในตลาดหุ้นฮ่องกง (Dual-listing) อยู่ที่ราว 22 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ถึงแม้ว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนของจีนโดยรวมลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ซึ่งทำให้อัตราส่วนจ่ายเงินปันผลต่อกำไรสุทธิสำหรับผลประกอบการปี 2023 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 42.3% โดยเพิ่มขึ้นจากปี 2021 และปี 2022 ที่อยู่ที่ 35.7% และ 41% ตามลำดับ
นอกจากนี้หากเจาะลึกไปที่บริษัทขนาดใหญ่จำนวน 25 บริษัทที่มี Market Cap มากที่สุด จะพบว่าจำนวนเงินที่ถูกจ่ายออกมาเป็นเงินปันผลเพิ่มสูงขึ้นถึง 49% และบริษัทส่วนใหญ่มีอัตราส่วนจ่ายเงินปันผลต่อกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึงกว่า 80% เมื่อเทียบกับในปีที่แล้ว
การที่อัตราเงินปันผลต่อกำไรของบริษัทจีนเพิ่มมากขึ้นถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงที่กำไรลดลง และสภาวะเศรษฐกิจจีนเติบโตได้ในทิศทางที่ชะลอตัวลง ส่วนหนึ่งมาจากมาตรการที่ออกมาโดยหน่วยงานกำกับดูแลของจีน โดยเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นาย Wu Qing ประธาน ก.ล.ต. คนใหม่ของจีนได้ส่งสัญญาณกดดันให้บริษัทจดทะเบียนในจีนที่มีสัดส่วนการจ่ายเงินปันผลที่ค่อนข้างต่ำมีการจ่ายเงินปันผลเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีจีนยังมีการออกประกาศแนวทางของการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ โดยที่ระบุว่าหากบริษัทจดทะเบียนบริษัทไหนไม่มีการประกาศจ่ายเงินปันผลหรือมีอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ต่ำกว่าปกติ จะมีมาตรการห้ามผู้ถือหุ้นรายใหญ่ขายหุ้นและจะมีการประกาศเตือนว่าบริษัทดังกล่าวมีความเสี่ยงในการลงทุน
โดยการที่บริษัทจีนประกาศจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้น อาจเป็นเพียงปัจจัยบวกแรกที่เป็นผลมาจากมาตรการต่าง ๆ ที่ทางการจีนพยายามออกมาเพื่อสนับสนุนตลาดหุ้นจีนให้มีประสิทธิภาพและมีความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น ซึ่งในระยะยาวหากตลาดหุ้นจีนมีพัฒนาการด้านต่าง ๆ ในทางที่ดีขึ้น จะถือเป็นปัจจัยบวกที่สนับสนุนให้ตลาดหุ้นจีนสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างมีเสถียรภาพมากกว่าที่ผ่านมา
และอย่างน้อยก็น่าจะทำให้นักลงทุนที่มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นจีนเริ่มรู้สึกสบายใจได้ว่า ต่อจากนี้จะมีทางการจีนคอยหนุนหลังและคอยควบคุมให้ตลาดหุ้นจีนพัฒนาได้ดีขึ้น
ซึ่งจะนำมาสู่ผลตอบแทนของตลาดหุ้นจีนที่ดีในระยะยาว และอาจช่วยลดความเสี่ยงที่ตลาดหุ้นจะปรับลดลงแรงจากปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากความไม่โปร่งใสของบริษัทจดทะเบียนเอง
