GULF ควบรวม INTUCH ใช้ชื่อบริษัทใหม่ “กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์”

GULF-INTUCH

GULF ควบรวม INTUCH ใช้ชื่อบริษัทใหม่ “กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์” ชื่อย่อหุ้น GULF ชงที่ประชุมผู้ถือหุ้นร่วม 25 มี.ค. 68 ด้านประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน GULF คาดตั้งบริษัทใหม่แล้วเสร็จ Q2/68 รับส่วนแบ่งกำไรเพิ่ม 3,500 ล้านบาท/ปี ส่วน Data Center ทยอยเปิดเฟสแรก 25 เมกะวัตต์ เดือนเมษายนปีนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานเกี่ยวกับวาระการประชุมผู้ถือหุ้นร่วม ระหว่างผู้ถือหุ้นของบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (GULF) และผู้ถือหุ้นของบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (INTUCH) ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 25 มีนาคม 2568

วาระที่ 1 พิจารณาอนุมัติชื่อของบริษัทใหม่ (NewCo)

โดยความเห็นคณะกรรมการบริษัท GULF และ INTUCH เห็นสมควรเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นร่วมพิจารณาอนุมัติชื่อของบริษัทใหม่ที่เกิดจากธุรกรรมการควบบริษัท (NewCo) โดยชื่อภาษาไทยคือ บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ชื่อภาษาอังกฤษ Gulf Development Public Company Limited โดยใช้ชื่อย่อหุ้น GULF

วาระที่ 2 พิจารณาอนุมัติวัตถุประสงค์ของ NewCo

โดยคณะกรรมการบริษัทเห็นสมควรเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นร่วมพิจารณาอนุมัติวัตถุประสงค์ของ NewCo จำนวน 68 ข้อ และการมอบอำนาจให้กรรมการผู้มีอำนาจของ NewCo หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากกรรมการผู้มีอำนาจของ NewCo ในการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนวัตถุประสงค์ของ NewCo ตามรายละเอียดที่เสนอ

ADVERTISMENT

วาระที่ 3 พิจารณาอนุมัติทุนจดทะเบียน จำนวนหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ของหุ้น และทุนชำระแล้วของ
NewCo

โดยความเห็นคณะกรรมการบริษัท เห็นสมควรเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นร่วมพิจารณาอนุมัติทุนจดทะเบียนจำนวน 14,939,837,683 บาท ทุนชำระแล้วจำนวน 14,939,837,683 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 14,939,837,683 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 1 บาท

ADVERTISMENT

วาระที่ 4 พิจารณาอนุมัติการจัดสรรหุ้นของ NewCo

โดยความเห็นคณะกรรมการบริษัท เห็นสมคารเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นร่วมพิจารณาอนุมัติจัดสรรหุ้นของ NewCo ให้แก่ผู้ถือหุ้น โดยหุ้นที่จะนำมาจัดสรรเป็นหุ้นสามัญของ NewCo มีจำนวนทั้งสิ้น 14,939,837,683 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นของ GULF และ INTUCH ที่มีชื่อปรากฏอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของ GULF และ INTUCH ณ วันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีการจัดสรรหุ้นของ NewCo (Book Closing Date) ซึ่งได้กำหนดเป็นวันที่ 25 มีนาคม 2568 ในอัตราส่วนตามที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 ของ GULF และ INTUCH

รวมถึงการปัดเศษหุ้นหากมีเศษหุ้นที่เกิดขึ้นจากการคำนวณตามอัตราส่วนการจัดสรร ราคาชดเชยต่อหุ้นกรณีผู้ถือหุ้นถูกปัดเศษทิ้ง การที่นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ได้เสนอทำหน้าที่เป็นผู้เกลี่ยหุ้น (Balancer) ในการปัดเศษหุ้น และชำระเงินให้แก่หรือรับเงินชดเชยจาก NewCo ในการเกลี่ยหุ้นดังกล่าว ตลอดจนการมอบอำนาจให้กรรมการผู้มีอำนาจของ GULF หรือ INTUCH หรือ NewCo หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากกรรมการผู้มีอำนาจของ GULF หรือ INTUCH หรือ NewCo มีอำนาจดำเนินการใด ๆ เกี่ยวข้องกับการจัดสรรหุ้นสามัญของ NewCo ตามรายละเอียดที่เสนอ

วาระที่ 5 พิจารณาอนุมัติหนังสือบริคณห์สนธิของ NewCo

โดยคณะกรรมการบริษัท เห็นสมควรเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นร่วมพิจารณาอนุมัติหนังสือบริคณห์สนธิของ NewCo และการมอบอำนาจให้กรรมการผู้มีอำนาจของ NewCo หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากกรรมการผู้มีอำนาจของ NewCo ในการดำเนินการใด ๆ เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิของ NewCo ตามรายละเอียดที่เสนอ

วาระที่ 6 พิจารณาอนุมัติข้อบังคับของ NewCo

โดยความเห็นคณะกรรมการบริษัท เห็นสมควรเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นร่วมพิจารณาอนุมัติข้อบังคับของ NewCo จำนวน 64 ข้อ และการมอบอำนาจให้กรรมการผู้มีอำนาจของ NewCo หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากกรรมการผู้มีอำนาจของ NewCo ในการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนข้อบังคับของ NewCo ตามรายละเอียดที่เสนอ

วาระที่ 7 พิจารณาอนุมัติการเลือกตั้งกรรมการของ NewCo

โดยคณะกรรมการบริษัท ซึ่งไม่รวมถึงกรรมการผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เห็นสมควรให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นร่วมพิจารณาอนุมัติการเลือกตั้งกรรมการของ NewCo โดยมีรายนามดังต่อไปนี้

1. นายวิเศษ จูภิบาล กรรมการอิสระ
2. นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการอิสระ
3. นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ กรรมการอิสระ
4. นายสมประสงค์ บุญยะชัย กรรมการอิสระ
5. ศาสตราจารย์ ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ กรรมการอิสระ
6. นางสิริวิภา สุพรรณธเนศ กรรมการอิสระ
7. นายสารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการ
8. นางพรทิพา ชินเวชกิจวานิชย์ กรรมการ
9. นายบุญชัย ถิราติ กรรมการ
10. นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการ
11.นายดิษทัต ปันยารชุน กรรมการ
12. นางโชติกุล สุขภิรมย์เกษม กรรมการ

GULF ควบ INTUCH ตั้งบริษัทใหม่ 
รับส่วนแบ่งกำไรเพิ่ม 3,500 ล้านบาท/ปี

เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน GULF เปิดเผยว่า “ปัจจุบันบริษัทอยู่ในกระบวนการควบรวมกิจการกับ INTUCH ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในช่วงต้นไตรมาส 2 ของปีนี้

โดยบริษัทใหม่ (NewCo) จะมีผลกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจาก NewCo จะมีสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นใน ADVANC เป็น 40.44% จากเดิมถือทางอ้อมในสัดส่วน 19.16% ส่งผลให้ได้รับส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นประมาณ 3,500 ล้านบาทต่อปี

ในขณะเดียวกัน กระแสเงินสดจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 6,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งสามารถรองรับการขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัทในอนาคต

นอกจากนี้ ในปี 2568 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตขึ้น 20-25% โดยโครงการโรงไฟฟ้าต่าง ๆ ของบริษัทจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เพิ่มอีกประมาณ 1,500 เมกะวัตต์ในปีนี้ ได้แก่ โครงการ HKP หน่วยผลิตที่ 2 กำลังการผลิตติดตั้ง 770 เมกะวัตต์ ที่ได้เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเรียบร้อยตามกำหนดในเดือนมกราคมที่ผ่านมา

โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (Solar Farms) และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน (Solar Farms with Battery Energy Storage Systems) ภายในประเทศ ที่มีแผนเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เพิ่มอีก 7 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 597 เมกะวัตต์ ในขณะที่โครงการ Solar Rooftop ภายใต้ GULF1 คาดว่าจะดำเนินการจ่ายไฟฟ้าให้กับลูกค้าเพิ่มอีกประมาณ 100 เมกะวัตต์

นอกจากนี้ ธุรกิจศูนย์ข้อมูล (Data Center) มีแผนที่จะทยอยเปิดให้บริการเฟสแรกขนาด 25 เมกะวัตต์ ในเดือนเมษายนปีนี้ โดยบริษัทมีแผนที่จะขยายขนาดการให้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 100-200 เมกะวัตต์ ภายใน 3 ปีข้างหน้า เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลในประเทศไทย

ในขณะที่ธุรกิจ Cloud ซึ่งบริษัทได้ร่วมมือกับ Google เพื่อให้บริการ Google Distributed Cloud Air-gapped มีแผนเปิดให้บริการในช่วงกลางปี 2568 เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านการประมวลผลข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ บริษัทยังมองถึงการต่อยอดความร่วมมือทางธุรกิจไปสู่บริการอื่น ๆ ในอนาคต ซึ่งรวมถึงการพัฒนาโซลูชั่น AI และการเสริมความแข็งแกร่งด้าน Cybersecurity เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล

ในส่วนของธุรกิจก๊าซ ในปีนี้ กลุ่มบริษัทมีแผนขยายการนำเข้า LNG เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 70 ลำ หรือประมาณ 4-5 ล้านตัน เพื่อรองรับการผลิตไฟฟ้าของโครงการโรงไฟฟ้า GSRC GPD และ HKP ซึ่งคาดว่าจะทำให้บริษัทรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจาก Shipper Fee โดยเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจก๊าซของบริษัทต่อไป

สำหรับธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค โครงการต่าง ๆ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนายังคงเป็นไปตามแผน โดยโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางใหญ่-กาญจนบุรี (M81) มีกำหนดจะเปิดดำเนินการในปี 2568 ขณะที่สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) มีกำหนดจะเปิดดำเนินการในปี 2569

ในส่วนของโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดเฟส 3 ณ ปัจจุบัน ได้ดำเนินการถมทะเลเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย และมีแผนที่จะเริ่มก่อสร้างสถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG Terminal) ในช่วงกลางปีนี้ อีกทั้งโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 มีกำหนดรับมอบพื้นที่จากการท่าเรือแห่งประเทศไทยเพื่อเริ่มก่อสร้างท่าเทียบเรือในช่วงปลายปี 2568

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานของบริษัท ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2567 ในอัตรา 1.01 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลต่อกำไรสุทธิเท่ากับ 83% โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 6 มีนาคม 2568