
“ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป” แจ้งบอร์ดอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียน 941 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 1,789 ล้านบาท เจรจาแบงก์แก้เงื่อนไขเงินกู้ยืมระยะยาววงเงินรวม 853.7 ล้านบาท พร้อมขอเปลี่ยนแปลงการดำรงสัดส่วนการถือหุ้น “ครอบครัววนาสิน” จากข้อกำหนดในสัญญาเงินกู้ คาดดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 2568
นายภูมิพัฒน์ ฉัตรนรเศรษฐ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ตามที่บริษัทได้รับการขอให้ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมในหมายเหตุประกอบงบการเงินปี 2567 จึงขอชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับ 2 ประเด็นดังนี้
1.ข้อ 2 สถานะการเงินและแผนธุรกิจ
บริษัทยังคงดำเนินการตามแผนที่ได้ชี้แจงไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงิน ณ งวดสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ตามที่ได้ระบุในข้อมูลสำคัญ โดยเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2568 คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 941,686,960 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 847,467,400 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 1,789,154,360 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 941,686,960 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท
โดยบริษัทจะดำเนินการแจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับรายการเพิ่มทุนจดทะเบียนดังกล่าวให้แก่ผู้ลงทุนทราบผ่านระบบตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อให้ผู้ลงทุนได้รับข้อมูลที่ครบถ้วน ชัดเจน และเพียงพอในการพิจารณาการลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทต่อไป
2.ข้อ 29 เงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงิน
บริษัทขอชี้แจงเพิ่มเติมว่า ในส่วนของเงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงิน ซึ่งไม่สามารถดำรงอัตราส่วนทางการเงินบางประการตามที่กำหนดในสัญญาเงินกู้ยืม บริษัทได้เจรจากับสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องเพื่อขอยกเว้นการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวในระยะเวลาชั่วคราว และได้รับความเห็นชอบในการผ่อนผันเงื่อนไขระยะสั้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขอื่นที่ไม่สามารถดำรงได้และมีผลกระทบต่องบการเงิน ได้แก่ เงื่อนไขการดำรงสัดส่วนการถือหุ้นของครอบครัววนาสิน ทั้งทางตรงและทางอ้อมไม่น้อยกว่า 15% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท
ซึ่งที่ผ่านมาสัดส่วนการถือหุ้นของครอบครัววนาสินได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยธุรกรรมดังกล่าวเป็นสิทธิส่วนบุคคลของผู้ถือหุ้นที่บริษัทไม่สามารถควบคุมได้ ส่งผลให้บริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวได้ ทั้งนี้มูลค่าเงินกู้ยืมระยะยาวที่มีการกำหนดเงื่อนไขดังกล่าวมีจำนวนทั้งสิ้น 853.7 ล้านบาท
ในส่วนของแนวทางการแก้ไขในระยะยาว บริษัทได้พิจารณาและอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อปรับปรุงอัตราส่วนทางการเงินที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับฐานะการเงินของบริษัท
นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับสถาบันการเงินเพื่อขอปรับปรุงวิธีการคำนวณอัตราส่วนทางการเงินบางประการ เพื่อให้สะท้อนถึงความสามารถที่แท้จริงของบริษัทในการชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยจากเงินกู้ยืมระยะยาว รวมถึงขอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการดำรงสัดส่วนการถือหุ้นของครอบครัววนาสินจากข้อกำหนดในสัญญาเงินกู้ยืมระยะยาว ซึ่งบริษัทคาดว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2568
บริษัทคาดว่าจะสามารถดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดทางการเงินที่กำหนดโดยสถาบันการเงินได้ภายหลังการเพิ่มทุนและการปรับปรุงเงื่อนไขทางการเงินตามแผนที่กำหนดไว้ โดยบริษัทจะแจ้งให้ผู้ลงทุนทราบเกี่ยวกับสถานการณ์ในส่วนนี้ต่อไป
บริษัทขอขอบคณตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ให้โอกาสในการชี้แจงข้อมูลดังกล่าว และจะดำเนินการแจ้งให้ผู้ลงทุนทราบถึงความคืบหน้าในประเด็นต่าง ๆ ตามแผนที่ได้กล่าวไว้