บาทแข็งค่าสุดในรอบ 6 เดือน รับราคาทองคำทำ New Time High

เงิน ทอง

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพรายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน 2568

ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ (17/4) ที่ระดับ 33.15/16 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (16/4) ที่ระดับ 33.24/25 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินภูมิภาคและตลาดโลก เนื่องจากดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินหลัก หลังตลาดเกิดความกังวลเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐที่อาจส่งผลกระทบกับทางประเทศสหรัฐ ซึ่งสอดคล้องกับที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาเตือนถึงผลกระทบที่ฉุดเศรษฐกิจสหรัฐให้ถดถอย และทำให้เงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ค่าเงินบาทยังมีแรงหนุนให้แข็งค่าจากการทำธุรกรรมค้าทอง หลังสถานการณ์ราคาทองในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น มากกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ โดยสัญญาณทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุระดับ 3,300 ดอลลาร์สหรัฐ และทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนแห่ซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ และเมื่อคืนวานนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้มีการเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐลดลง 0.3% ในเดือน มี.ค.เมื่อเทียบรายเดือน

ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือน ก.พ. และเฟดสาขาแอตแลนตา เผยแบบจำลองคาดการณ์ GDONow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐหดตัว -2.2% ในไตรมาส 1/2568 จากก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 19 ก.พ. GDP Now คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว +2.3% ในไตรมาส 1/2568

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 1.4% ในเดือน มี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.2% ในเดือน ก.พ.เมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกขึ้น 4.6% ในเดือน มี.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือน ก.พ.

ด้านปัจจัยในประเทศ วันนี้ (17/4) นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อที่่่ต่ำกว่าคาดการณ์ไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ระดับต่ำเป็นผลมาจากราคาพลังงานป็นส่วนสำคัญ ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบต่อรายได้ของประชาชน หรือสะท้อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว รวมทั้งยังเป็นผลจากการดูแลค่าครองชีพของรัฐบาล และกระทรวงพาณิชย์ให้ทันกับสถานการณ์ต่าง ๆ

ADVERTISMENT

โดย นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในและพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศดำเนินการเชิงรุก เพื่อดูแลค่าครองชีพของประชาชน และให้ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด รวมถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า

ขณะที่การขึ้นกำแพงภาษีของสหรัฐจะมีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทิศทางอัตราเงินเฟ้อในอนาคตจากคาดการณ์เดิม สำหรับอัตราเงินเฟ้อในเดือนมีนาคม 2568 อยู่ที่ร้อยละ 0.84 ส่งผลให้ไตรมาสแรกของปี 2568 อยู่ที่ร้อยละ 1.08 ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์เดิม

นอกจากนี้ ในไตรมาสที่ 2 คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะต่ำกว่าร้อยละ 1.0 อย่างต่อเนื่อง ทำให้ทั้งปี 2568 อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มต่ำกว่ากรอบเป้าหมาย ทั้งนี้ ระหว่างวันการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทอยู่ในกรอบระหว่าง 33.12-33.36 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 33.30/31 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวเปิดตลาดเช้านี้ (17/4) ที่ระดับ 1.1359/60 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (16/4) ที่ระดับ 1.1031/33 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร นักลงทุนกำลังรอผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้ โดยตลาดคาดว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ขณะที่ข้อมูลเงินเฟ้อขั้นสุดท้ายของยูโรโซนในเดือน มี.ค.บ่งชี้ว่า เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 2.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน ทั้งนี้ ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1343-1.1388 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.13676/77 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

ค่าเงินเยนเคลื่อนไหวเปิดตลาดเช้านี้ (17/4) ที่ระดับ 142.62/63 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (16/4) ที่ระดับ 142.84/85 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดบวกในวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากความหวังว่าจะมีความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐเกี่ยวกับภาษีศุลกากร ขณะที่ทั้งสองประเทศอยู่ระหว่างการเจรจา

นอกจากนี้ นายคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ส่งสัญญาณว่าอาจต้องปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน หากมาตรการภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น ทั้งนี้ ระหว่างวันค่าเงินเยนอยู่ในกรอบระหว่าง 141.84-143.08 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 142.77/78 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ ได้แก่ ดุลการค้าของญี่ปุ่น (17/04), ดัชนีราคาผู้ผลิตของเยอรมนี (17/04), อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (17/04), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ (17/04), ดัชนีการผลิตของสหรัฐจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย (17/04) สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -7.2/-7.1 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -9.5/-7.7 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ