หุ้นไทยเคลื่อนไหวกรอบแคบ นักลงทุนรอความชัดใน-นอก โบรกหวังปัจจัยใหม่เข้ามาช่วยหนุนตลาด

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการนักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ กิมเฮ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันที่ 30 พ.ค.62 ว่า วันนี้ตลาดยังแกว่งในกรอบแคบๆ อยู่ในแดนบวกสลับแดนลบ โดยตลาดช่วงนี้อาจจะยังรอปัจจัยใหม่ๆ เพราะปัจจัยภายนอกนักลงทุนยังกังวลเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ชัดเจน และในช่วงสั้นๆ อาจจะมีบอนด์ยีลด์ระยะสั้นวิ่งขึ้นมาสูงกว่าบอนด์ยีลด์ระยะยาว ซึ่งนักลงทุนอาจจะกังวลในเรื่องของ recession (ภาวะเศรษฐกิจถดถอย) เพราะในอดีตถ้าเทรนด์บอนด์ยีลด์ระยะสั้นพลิกขึ้นมาในลักษณะนี้มองว่าจะเกิด recession ได้ แต่อย่างไรก็ตามก็เป็นเซนติเมนต์เชิงลบ ไม่ยากให้ไปกังวลอะไรมาก เพราะประเด็นหลักๆ ยังให้น้ำหนักการค้าโลก หากไม่จบโอกาสที่ตลาดจะ Rally ขึ้นไปได้เร็วก็ดูยาก

ส่วนปัจจัยภายในประเทศก็เหมือนกันไม่มีความชัดเจนในเรื่องของการฟอร์มทีมรัฐบาล จะเห็นพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์ดูเหมือนจะจบได้ แต่ตอนนี้ดูจะดึงจังหวะบ้าง ซึ่งตลาดคงรอความชัดเจน ต้องรอการเลือกตัวนายกรัฐมนตรี โดยระหว่างนี้ต้องรอกระบวนการโปรดเกล้าฯ ประธาน ส.ว. และ ส.ส. หลังจากนั้น 3 วันก็จะเปิดประชุมสภาเพื่อเลือกนายกฯ คาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนประมาณต้นๆ เดือน มิ.ย.62

“ตลาดช่วงนี้จะวิ่งอยู่ในกรอบแคบๆ ในเรื่องปัจจัยเดิมๆ ที่ยังไม่ค่อยมีความชัดเจนทั้งในและต่างประเทศ โดยวันนที่ปิดตลาดที่ 1,621.57 จุด เพิ่มขึ้น 2.21 จุด หรือ +0.14% ขณะที่ปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ 45,147.45 ล้านบาท”

ทั้งนี้มองกรอบการเคลื่อนไหวบริเวณแนวรับไม่น่าจะหลุดโซน 1,620 จุด แต่ถ้าเกิดแกว่งลงไปก็มองกรอบด้านล่างอีกจุดที่ 1,600 จุด ส่วนแนวต้านมองที่ 1,635 จุด และแนวต้านสำคัญที่ 1,655 จุด แต่เชื่อว่าอาจจะผ่านยาก ฉะนั้นอาจจะขายกำไรเล่นรอบในโซนแนวต้าน โดยตลาดยังคงไม่ได้เลือกทางอย่างชัดเจนคือ ยังคงแกว่งไซด์เวย์แบบนี้ไปก่อน รอปัจจัยทั้งในและต่างประเทศใหม่ ๆ เข้ามา

โดยทิศทางในวันพรุ่งนี้ (31 พ.ค.62) มองว่า ปัจจัยหลักๆ ยังไม่มีอะไรที่สำคัญมากก็ต้องติดตามตัวเลของแบงก์ชาติที่จะมีบทสรุปตัวเลขเศรษฐกิจประจำเดือน ซึ่งดูว่าโมเม้นตัมเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าเทรนด์แนวโน้ม สัญญาณตัวเลขเศรษฐกิจ ก็น่าจะยังคงไม่ได้ดีมากนัก ฉะนั้นตลาดจะแกว่งแบบนี้เพื่อรอความชัดเจนของการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ และหน้าตาของทีมเศรษฐกิจมากกว่า เพราะตัวเลขที่ผ่านมาที่จะออกมาในวันพรุ่งนี้ก็คงไม่ได้ bullish มาก


กลยุทธ์ลงทุนช่วงนี้ถ้าใครที่รับความเสี่ยงได้สูงสามารถเก็งกำไรได้ เน้นหุ้นที่อยู่ในกลุ่ม Domestic Play มองว่าจะปลอดภัยกว่า Global Play ค่อนข้างมาก