Q2 รพ.ธนบุรีกำไรอืด ลุ้นรายได้ 4 แห่งกู้ชีพปีนี้โต 20%

บิ๊ก รพ.ธนบุรี ส่งซิกผลดำเนินงานไตรมาส 2 “ทรงตัว” เหตุแบกต้นทุนลงทุน 4 โครงการใหม่ทั้งไทย-เมียนมา-จีน หวังครึ่งปีหลังรายได้วิ่งเข้ามาปั๊มทั้งปีโต 20% ขณะที่รายได้หลักมาจากรพ.ธนบุรีโต 10%

นายแพทย์ ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ รองประธานกรรมการ บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป หรือหุ้น THG เปิดเผยว่า แนวโน้มผลดำเนินงานของไตรมาส 2/2562 ของบริษัทยังคงทรง ๆ ตัว เทียบจากไตรมาสแรก ที่มีรายได้อยู่ 1,872 ล้านบาท และกำไรสุทธิราว 8 ล้านบาท เนื่องจากช่วงปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน ได้ลงทุนใน 4 ธุรกิจใหม่ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งมีบางแห่งที่ลงทุนก็เริ่มมีรายได้เข้ามาบ้างแล้ว แต่ยังไม่มากพอเมื่อเทียบกับต้นทุนที่ลงทุนก้อนใหญ่และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จากการดำเนินงานในช่วงแรก ๆ ที่เปิดให้บริการ ในส่วนของธุรกิจโรงพยาบาลในประเทศ การทำรายได้ยังคงเติบโตมาจากตัวโรงพยาบาลธนบุรีเป็นหลัก เนื่องจากยังมีจำนวนคนไข้เพิ่มขึ้น ราคาและความซับซ้อนของโรค รวมถึงแผนการเพิ่มกำลังการให้บริการด้วย นอกจากนี้ยังมี รพ.ธนบุรี บำรุงเมือง, Jin Wellbeing Country และการเปิดศูนย์หัวใจแห่งใหม่ ที่คาดจะช่วยเพิ่มรายได้

“ไตรมาส 3 นี้ (ผลดำเนินงาน) คาดว่าจะดีขึ้น ดังนั้น ปีนี้ทั้งปีบริษัทยังสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมาย 20% จากปีก่อน โดยรายได้หลักยังมาจากส่วนธุรกิจโรงพยาบาลตั้งเป้าโต 10%(รายได้หลักมาจากธุรกิจ รพ. 80% ของรายได้รวม ที่เหลือเป็นรายได้อื่น ๆ เช่นค่าปรึกษาบริหาร รพ.ในต่างประเทศ)

สำหรับความคืบหน้าของธุรกิจที่ออกไปลงทุนต่างประเทศช่วงที่ผ่านมา นพ.ธนาธิปกล่าวว่า จากล่าสุดที่ THG ได้เข้าไปร่วมลงทุนเปิดโรงพยาบาล Ar Yu International Hospital ในประเทศเมียนมา เมื่อเดือน มี.ค. 2562 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน (เข้าเดือนที่ 4) มีผู้ป่วยชาวเมียนมาและชาวต่างชาติมาใช้บริการค่อนข้างมาก จะเป็นผู้ป่วยนอก 200 คนต่อวัน และผู้ป่วยในเฉลี่ย 20 คนต่อวัน โดยเดือน เม.ย. 62 มีรายได้เกิดขึ้นแล้วราว 47 ล้านบาท

“รพ. Ar Yu มีกระแสเงินสดเข้ามาแล้ว และหากบริหารค่าใช้จ่าย ได้ดี ก็อาจจะถึงจุดคุ้มทุนในสิ้นปีหน้าได้ ซึ่งถ้ามีกำไรก็จะทำให้ THG สามารถรับรู้ตามสัดส่วนที่ถือหุ้นด้วย” นพ.ธนาธิปกล่าว

ทั้งนี้ THG ได้เข้าร่วมลงทุนกับพันธมิตรท้องถิ่นในเมียนมา (พม่า) ตั้งบริษัท ARYU Internation Health Care Company Limited เปิดให้บริการ โรงพยาบาล Ar Yu International Hospital มูลค่าโครงการ 75 ล้านเหรียญสหรัฐ (กว่า 2,000 ล้านบาท) โดย THG ถือหุ้น 40% ที่เหลือเป็นฝั่งเมียนมา นำโดย Ga Mone Pvint Company Limited (GMP) นักธุรกิจค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ถือหุ้น 50% และอีก 10% เป็นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์รวมตัวกันภายใต้ชื่อ Aryu Ananta Medical Service Company Limited

ส่วนโรงพยาบาล Velly Hospital ในจีนที่เปิดให้บริการเมื่อปีที่แล้ว นายธนาธิปกล่าวว่า มีผลดำเนินงานที่เติบโตบ้าง เนื่องจากมีจำนวนผู้ป่วยมาใช้บริการเพิ่มขึ้น และเลือกโปรดักต์ให้บริการที่สามารถทำกำไรได้ในจีน ขณะนี้มีคนไข้ราว 200 คน และผู้ป่วยในราว 60-70 คน ทำให้มีกระแสเงินเข้ามาดีและยังสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ดีกว่าปีที่แล้ว จึงคาดว่าปีนี้จะมีผลขาดทุนลดลง

ขณะที่ธุรกิจใหม่ในประเทศที่ลงทุนแล้ว คือ รพ.ธนบุรี บำรุงเมือง ขณะนี้มีผู้ป่วยต่างชาติเข้ามาใช้บริการโดยเฉพาะชาวอาหรับ เมียนมา ปัจจุบันมีผู้ป่วยในกว่า 40 คนแล้ว และ IBF ที่เปิดแล้ว ในเดือน เม.ย. 62 อยู่ที่ 47 ล้านบาท จึงมีแนวโน้มผลดำเนินงานไปได้ดี ส่วน “จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้” เมืองสำหรับคนวัยเกษียณ ล่าสุด มียอดขายสะสมราว 158 ยูนิตและรอโอน 104 ยูนิต ซึ่งคาดสิ้นปีนี้โอนได้ราว 200 ห้อง และตัวโรงพยาบาลจะเปิดได้เดือน ก.ย. 62

สำหรับราคาหุ้น THG ในรอบปีนี้ (ม.ค.-27 พ.ค. 62) พบว่า ปรับตัวขึ้นไปสูงสุดอยู่ที่หุ้นละ 33.75 บาท เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 62 และหลังจากนั้นไหลลงต่อเนื่องลงมาต่ำสุดอยู่ที่ 27 บาท ในวันที่ 14 พ.ค. 62 ซึ่งเป็นวันประกาศผลดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ มีกำไรเพียง 8 ล้านบาท ลดลงราว 91% จากช่วงเดียวกันปีก่อนและล่าสุด (27 พ.ค.) หุ้นฟื้นตัวกลับมาอยู่ที่ระดับ 29 บาท ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ THG คือ ครอบครัวของนายบุญ วนาสิน