ปีนี้ตลาดประกันชีวิตแข่งขันในเชิงมาร์เก็ตติ้งค่อนข้างสูง ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจอย่าง “เอไอเอ” ก็รุกเปิดตัวแคมเปญใหญ่ต่อเนื่อง เพื่อสู้ศึกตลาด “red ocean” (ภาวะการแข่งขันกันรุนแรงเพื่อชิงฐานลูกค้า)
โดย “เอไอเอ ประเทศไทย” ที่พอร์ตใหญ่คือ “ประกันสุขภาพ” มีขนาดเบี้ยรับรวมรั้งอันดับ 1 ในเมืองไทยมาต่อเนื่อง
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- ราคาทองวันนี้ (17 เม.ย. 67) ปรับ 8 ครั้ง ขึ้น 450 บาท รูปพรรณบาทละ 42,150 บาท
- ตรวจหวย ใบตรวจหวย ผลรางวัล สลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน 2567
และติดท็อป 3 ของ “เอไอเอกรุ๊ป” ผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการที่เพิ่งต่อสัญญากับทีมฟุตบอลท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส ต่อไปอีก 8 ปี จนถึงฤดูกาล 2026-27 ไปสด ๆ ร้อน ๆ
“เอกรัตน์ ฐิติมั่น” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด เอไอเอ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปีนี้บริษัทจะขับเคลื่อนธุรกิจผ่านกลุ่มลูกค้า 3 เซ็กเมนต์หลัก เริ่มจากแคมเปญเอไอเอไวทัลลิตี้ (AIA Vitality) ขยายตลาดคนรักสุขภาพ ปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 2.5 แสนราย คาดจะเป็น 3.5 แสนรายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากตลาดประกันสุขภาพยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เพราะคนยังมีความกังวลในเรื่องค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาล โดยเฉพาะโรคร้ายแรงที่แพงขึ้นต่อเนื่อง
“ช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะเน้นโปรโมตกิจกรรมและผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้มากขึ้น ซึ่งตั้งแต่เดือน ส.ค.นี้จะมีการออกแคมเปญฉลองเอไอเอกรุ๊ปครบรอบ 100 ปี โดยจัดในรูปแบบงานวิ่ง”
“สจ๊วต เอ สเปนเซอร์” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด กลุ่มบริษัท เอไอเอ เสริมว่า เอไอเอไวทัลลิตี้ได้เปิดตัวไปแล้วใน 11 ประเทศ มีสมาชิกรวมกว่า 1.5 ล้านราย มีสถิติการออกกำลังกายมากกว่า 700,000 ครั้งต่อวัน และมีสมาชิกใหม่ลงทะเบียนเข้าใช้งานประมาณ 1,000 คนในทุกเดือน
“ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญมาก อย่างไรก็ดี บริษัทมีแผนจะขยายโครงการนี้ในประเทศใหม่ ๆ เพิ่มเติม ขณะนี้กำลังเตรียมการ โดยเรายังคงพัฒนาสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เพื่อสร้างแรงจูงใจในการดูแลสุขภาพ รวมถึงนำผลิตภัณฑ์ความคุ้มครองต่าง ๆ เข้ามามีส่วนร่วมกับโครงการนี้ อาทิ การลดเบี้ยประกันเมื่อดูแลสุขภาพตัวเองดีขึ้น”
ด้านลูกค้ากลุ่มต่อมา “เอกรัตน์” ฉายภาพว่า บริษัทได้เปิดแคมเปญเอไอเอเพรสทีจคลับ (AIA Prestige Club) เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเจาะลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตเร็ว ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 7 หมื่นราย ส่วนลูกค้ากลุ่มใหม่ คาดว่าจะเปิดตัวได้ในไตรมาส 3 หรือประมาณเดือน ส.ค.นี้ ซึ่งกลุ่มนี้จะเน้นทำตลาดระยะยาว
“เราอยากให้คนจำภาพเอไอเอ ต้องนึกถึงโครงการไวทัลลิตี้, เพรสทีจคลับ และตัวสุดท้ายที่กำลังจะทำออกมา ซึ่งมีสีสันแน่ ๆ โดยหลังจากนี้เราจะเน้นทำแคมเปญแบบ long term โฟกัสผ่านลูกค้า 3 กลุ่มนี้เป็นหลัก โดยประมาณต้นปีหน้าจะเริ่มทยอยทำแคมเปญใหม่ ๆ ออกมาต่อเนื่อง”
นอกจากนี้ “เอกรัตน์” บอกด้วยว่า บริษัทยังได้พัฒนา “AIA PAY” ซึ่งเป็นบริการโอนเงินผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ผ่านบัญชีธนาคาร หรือผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ลงทะเบียนด้วยเลขที่บัตรประชาชน (ID) ถือเป็นเจ้าแรกในธุรกิจประกันชีวิต โดยลูกค้าสามารถรับเงินผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเงินสินไหมทดแทน, เงินคืนตามเงื่อนไขกรมธรรม์, เงินปันผล หรือเงินกู้ตามกรมธรรม์ โดยไม่มีค่าธรรมเนียมในการโอน สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ไม่ต้องรอเช็ก เป็นการแก้ปัญหา “เช็กไม่ถึงมือลูกค้า หรือสูญหายระหว่างทาง”
“เราอาจจะไม่ได้มองในแง่การช่วยลดต้นทุนเป็นหลัก แต่มองในแง่ของการให้บริการลูกค้า เพราะปัจจุบันผู้บริโภคหลายคนคุ้นเคยกับดิจิทัลในการรับเงินเข้าผ่านบัญชีพร้อมเพย์ ซึ่งมีการแจ้งเตือนให้ลูกค้าทราบทันทีว่าเงินเข้าบัญชีแล้ว สะดวกและรวดเร็ว”
หลังจากช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ เอไอเอมีเบี้ยรับรวมในเมืองไทยอยู่ที่ 52,628 ล้านบาท เติบโต 5% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเบี้ยปีแรกอยู่ที่ 8,739 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% และเบี้ยปีต่อ 41,048 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.1% มีอัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ที่ 88%
ส่วนครึ่งปีหลังที่เหลือ “เอไอเอ” ในฐานะเจ้าตลาดธุรกิจประกันชีวิตในเมืองไทย จะเข็นผลงานได้เข้าเป้า ต้อนรับ “อัลเจอร์ ฟัง” ซีอีโอคนใหม่ ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้หรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป