กังวลเศรษฐกิจ-อุปสงค์จะเติบโตช้าลงจากสงครามการค้า กดดันราคาน้ำมันดิบ

– ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับลดลง หลังตลาดกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนอาจยังไม่ได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้และคาดจะส่งผลกดดันต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลก รวมถึงความต้องการใช้น้ำมัน โดยความคืบหน้าล่าสุดทางสหรัฐฯ ได้มีการออกมาเปิดเผยว่าข้อตกลงทางการค้าระหว่างทั้ง 2 ประเทศที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้องการจะลงนามในการประชุม APEC ในวันที่ 16-17 พ.ย. จะต้องเป็นข้อตกลงที่ครอบคลุมประเด็นที่สำคัญทุกประเด็น ซึ่งสร้างความกังวลกับตลาดว่าทั้งสองประเทศอาจจะบรรลุข้อตกลงได้ล่าช้ากว่ากำหนด

-/+ ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของรัสเซียในเดือน ก.ย. ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นกว่าข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิตเนื่องจากปริมาณการผลิตน้ำมันจากแหล่งก๊าซธรรมชาติปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ในเดือน ต.ค ปริมาณการผลิตคาดจะลดลงไปสู่ระดับที่ได้ตกลงไว้

+/- จับตาสถานการณ์ Brexit ว่านายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษจะสามารถเจรจาบรรลุข้อตกลงกับทางสภาก่อนกำหนดการถอนตัวจาก EU ในวันที่ 31 ต.ค. ได้หรือไม่ หลังล่าสุดในวันเสาร์ที่ผ่านมาทางสภาได้ลงมติให้มีการเลื่อนการพิจารณาออกไปก่อน โดยในวันนี้จะมีการพิจารณาข้อตกลงอีกครั้งโดยเปิดให้มีการอภิปรายข้อตกลง

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในภูมิภาคที่ยังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะจากอินเดีย อย่างไรก็ตาม ราคาได้รับแรงกดดันจากจีนที่คาดจะส่งออกเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการใช้ปรับลดลงหลังวันหยุดยาวสิ้นสุดลง

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังที่สิงคโปร์ที่ลดลงต่ำสุดในรอบ 5 เดือน รวมถึงเวียดนามที่นำเข้าเพิ่มขึ้นในช่วงโรงกลั่นในประเทศปิดซ่อมบำรุง อย่างไรก็ตาม ราคาได้รับแรงกดดันจากการส่งออกไปยุโรปที่ลดลงเนื่องจากค่าขนส่งที่ปรับตัวสูงขึ้น