หางเลขสงครามการค้า! ‘ปูนซิเมนต์ไทยไตรมาส 3 กำไรลดลง 12%

ปูนซิเมนต์ไทยเผยไตรมาส 3 กำไร 6,204 ล้าน ลดลง 12% ระบุชัดส่วนหนึ่งมาจากผลกระทบจากสงครามการค้า ทำให้ความต้องการสินค้าลดลง ขณะที่งวด 9 เดือนกำไรลด 9,371 ล้านบาท หรือ 27% 

วันที่ 6 พฤศจิกายน 2562 บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ถึงผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 และช่วง 9 เดือนของปี 2562 ว่า ในไตรมาสที่ 3 ปี 2562 เอสซีจีมีกำไรสำหรับงวดเท่ากับ 6,204 ล้านบาท ลดลง 12% จากไตรมาสก่อน ส่วนใหญ่จากผลการดำเนินงานที่ลดลงของธุรกิจเคมิคอลส์เนื่องจากมีการกลับรายการสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี (DTA) จ านวน 1,063 ล้านบาท ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมลดลง 983 ล้านบาท ประกอบกับผลจากสงคราม
การค้า ทำให้ปริมาณความต้องการสินค้า HDPE (พลาสติกประเภทพอลิเอทิลีน (polyethylene, PE) ที่มีค่าความหนาแน่นสูง) ลดลง โดยในไตรมาสนี ้มีขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ จำนวน 762 ล้านบาท จากธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างจำนวน 640 ล้านบาท ส่วนใหญ่จากธุรกิจเซรามิกในต่างประเทศ เอสซีจีมี EBITDA เท่ากับ 14,842 ล้านบาท ลดลง 25% จากไตรมาสก่อน ขณะที่มีรายได้จากการขายเท่ากับ 110,330 ล้านบาท เพิ่มขึ ้น 1% จากไตรมาสก่อน

เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสำหรับงวดลดลง 35% ส่วนใหญ่จากผลการดำเนินงานที่ลดลงของธุรกิจเคมิคอลส์เนื่องจากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมลดลง 2,022 ล้านบาท และส่วนต่างราคาสินค้าลดลง โดย EBITDA ลดลง 17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้จากการขายลดลง 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากราคาขายสินค้าเคมีภัณฑ์ลดลง

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562เอสซีจีมีกำไรสำหรับงวด 24,910 ล้านบาท ลดลง 9,371 ล้านบาท หรือ 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้รายการสำคัญ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 ประกอบด้วย ไตรมาสที่ 2 มีรายการปรับเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน จำนวน 2,035 ล้านบาท ไตรมาสที่ 3 มีการกลับรายการสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี (DTA) จำนวน 1,063 ล้านบาท และขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ จ านวน 762 ล้านบาท ส่วนใหญ่จากธุรกิจเซรามิกในต่างประเทศ ประกอบกับความกังวลจากสงครามการค้า ส่งผลกระทบต่อส่วนต่างราคาสินค้าเคมีภัณฑ์ของทั้งบริษัทย่อยและบริษัทร่วม เอสซีจีมีEBITDA เท่ากับ 54,202 ล้านบาท ลดลง19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้จากการขายเท่ากับ 331,803 ล้านบาท ลดลง 8%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากราคาขายสินค้าเคมีภัณฑ์ลดลง

ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562เอสซีจีมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม เท่ากับ 8,796 ล้านบาท ลดลง 3,094 ล้านบาท หรือ 26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนมาจากบริษัทร่วมในธุรกิจเคมิคอลส์5,427 ล้านบาท หรือ 62% ของทั้งหมด ลดลง40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการปิดซ่อมบำรุงใหญ่ของบริษัทร่วมแห่งหนึ่งขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมจากธุรกิจอื่น เท่ากับ 3,369 ล้านบาท หรือ 38% ของทั ้งหมด เพิ่มขึ ้น 18% เมื่อเทียบกับช่วง
เดียวกันของปีก่อน

เอสซีจีมีเงินปันผลรับในช่วง 9 เดือนของปี2562 เท่ากับ 7,704 ล้านบาท ลดลง 585 ล้านบาท หรือ7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเอสซีจีมีเงินปันผลรับจากบริษัทร่วม(เอสซีจีถือหุ้น 20 -50%) เท่ากับ 6,770 ล้านบาท และจากบริษัทอื่น (เอสซีจีถือหุ้นต่ำกว่า 20%) เท่ากับ 934 ล้านบาท


เอสซีจียังคงมีโครงสร้างทางการเงินที่มั่นคงโดยมีเงินสดและเงินสดภายใต้การบริหารณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ปี 2562เท่ากับ 30,764 ล้านบาท ขณะที่ ณ สิ้นไตรมาสที่ 4 ปี 2561 อยู่ที่ 57,937 ล้านบาท เอสซีจีมีเงินทุนหมุนเวียนสุทธิ 75,097 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน 2,875 ล้านบาท หรือ 4% ขณะที่มีอัตราหมุนเวียนสินค้าคงเหลือต่อยอดขายเท่ากับ 48 วัน