SET Index บวก 1.04% หลังจีนเห็นด้วยลดภาษีสินค้ากับสหรัฐ

An electronic board shows stock movements at a private trading firm in Bangkok on June 18, 2012. Asian markets surged on June 18 and the euro rose after Greek pro-austerity parties won enough votes to form a government, but optimism it will stay in the eurozone was tempered with warnings that the future remains uncertain. AFP PHOTO/ Nicolas ASFOURI

นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส เปิดเผยภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันที่ 7 พ.ย.62 ว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้นได้ดีในช่วงบ่าย หลังมีกระแสข่าวว่าจีนเห็นด้วยที่จะลดภาษีสินค้าบางรายการกับสหรัฐ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการค้าในเฟสแรก ส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET (SET Index) ปิดบวกที่ 1,640.88 จุด เพิ่มขึ้น 16.89 จุด หรือเพิ่มขึ้น 1.04% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 59,054.45 ล้านบาท โดยหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ได้แก่ PTT PTTGC IVL และ TOP เป็นกลุ่มที่ปรับขึ้นนำตลาดมากที่สุด

ขณะที่ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้ (8 พ.ย.62) คาดว่าหากประเด็นการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนมีความชัดเจนมากขึ้นมีโอกาสที่จะเห็นเม็ดเงินไหลเข้ามาในสินทรัพย์เสี่ยงต่อเนื่อง โดยให้แนวต้านในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 1,650 จุด และแนวรับที่ 1,630 จุด

ด้านกลยุทธ์การลงทุนแนะนำลงทุนหุ้นปันผลสูงในระยะกลางถึงยาว เนื่องจากปัจจุบันส่วนต่างผลตอบแทนระหว่างการลงทุนในหุ้นและการลงทุนในพันธบัตรปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 4.8% ซึ่งเป็นระดับที่ค่อนข้างสูง ขณะที่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาส่วนต่างการลงทุนอยู่ที่ประมาณ 4.28% โดยเชื่อว่าหากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ คลี่คลายลง มีโอกาสที่เม็ดเงินลงทุนจะไหลเข้ามาลงทุนในหุ้นมากขึ้น และหุ้นปันผลสูงน่าจะหุ้นกลุ่มแรกๆ ที่นักลงทุนเลือกลงทุน โดยฝ่ายวิจัยแนะนำ MCS เป็นหุ้นปันผลเด่นที่ราคาเหมาะสม 11.30 บาท

นอกจากนี้ แนะนำหุ้นในดัชนี SET50 CPN ที่ราคา 94.00 บาท ได้อานิสงส์จากการที่ตลาดปรับขึ้น และที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับลดลงไปค่อนข้างแรงส่งผลให้มีโอกาสปรับขึ้น (Upside) สูงถึง 40% รวมถึงแนะนำซื้อ EA ที่ราคา 56.00 บาท เนื่องจากปัจจัยลบทั้งความเสี่ยงการถูกยกเลิกจองรถยนต์ไฟฟ้าจากสหกรณ์แท็กซี่และความเสี่ยงในการตั้งโรงงานแบตเตอรี่ได้ถูกคลี่คลายลงแล้ว จึงเชื่อว่าในระยะถัดไปราคาหุ้นน่าจะฟื้นกลับขึ้นมา