ราคาน้ำมันดิบขึ้นต่อ หลังสต๊อกน้ำมันดิบ EIA สหรัฐฯ ลดลงมากกว่าคาด

แฟ้มภาพ

+ ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้นต่อเนื่อง หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ประกาศตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสิ้นสุด ณ วันที่ 20 ธ.ค. ปรับลดลง 5.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 441.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งถือว่าปรับลดลงมากกว่าที่รอยเตอร์โพลคาดไว้ว่าจะปรับลดลงราว 1.7 ล้านบาร์เรล โดยสาเหตุหลักมาจากการที่โรงกลั่นในประเทศปรับเพิ่มกำลังผลิตขึ้นราว 418,000 บาร์เรล มาเฉลี่ยที่ร้อยละ 93.3 เพื่อตอบรับความต้องการใช้ช่วงปลายปี

+ ตัวเลขผลกำไรภาคอุตสาหกรรมของจีนเดือน พ.ย. ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 5.4 ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบ 8 เดือน และถือเป็นการกลับมาอยู่ในแดนบวกอีกครั้งในรอบ 3 เดือน จากที่ติดลบอยู่ที่ร้อยละ 9.9 ในเดือน ต.ค. โดยหลายฝ่ายเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจีนจะมีทิศทางที่สดใสขึ้นหลังการเจรจาการค้าสหรัฐฯ – จีน มีความคืบหน้า

– แม้โอเปกและพันธมิตรจะตกลงปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง  อย่างไรก็ตาม นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของรัสเซีย เผยว่า โอเปกและพันธมิตรอาจพิจารณายุติมาตรการลดกำลังการผลิตภายในปี 2563 นี้ เพราะมองว่าความต้องการใช้อาจปรับเพิ่มขึ้นและทำให้ตลาดน้ำมันเข้าสู่สมดุลอีกครั้ง ทั้งยังมองว่าโอเปกและพันธมิตรควรพิจารณาเรื่องการรักษาส่วนแบ่งการตลาดไว้ด้วย

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ อย่างไรก็ตาม ความต้องการในภูมิภาคยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำในช่วงสิ้นปี ขณะที่การส่งออกของจีนยังอยู่ในระดับสูง ทั้งยังมีการส่งออกไปยังบรูไนเป็นครั้งแรกอีกด้วย

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยราคายังคงได้รับแรงหนุนจากความต้องการนำเข้าของอินเดียที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับความต้องการใช้ในภูมิภาคที่ยังทรงตัว