บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รายงานราคาทองคำประจำวันที่ 4 มิ.ย. 2563
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
สรุป ราคาทองคำวานนี้ปิดดิ่งลงถึง 28.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันหลักมาจากการเปิดรับความเสี่ยง (Risk on) ของนักลงทุนทั่วโลก ท่ามกลางความหวังว่าเศรษฐกิจโลกจะพลิกฟื้นหลังจากทั่วโลกกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง ตอกย้ำความหวังเชิงบวกดังกล่าวหลัง ADP เผยว่าการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐลดลง 2.76 ล้านตำแหน่งในเดือน พ.ค. ซึ่ง “ดี” กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงกว่า 9 ล้านตำแหน่ง ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการของสหรัฐจาก ISM และ”มาร์กิต” ต่างก็ออกมาดีเกินคาดเช่นเดียวกัน สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปเรียบร้อย จึงกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยง จนดันดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นกว่า 500 จุดเมื่อคืนนี้ พร้อมกับเทขายทองคำซึ่งอยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ส่งผลให้ราคาทองคำดิ่งลงอย่างหนักกว่า 45 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 1,732 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สู่ระดับต่ำสุดบริเวณ 1,687 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนจะมีแรงซื้อเข้ามาพยุงราคาเอาไว้ ทำให้ราคาทองคำลดช่วงติดลบขึ้นมาปิดตลาดบริเวณ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ในที่สุด ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่ม +4.09 ตัน
สำหรับวันนี้ติดตามผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาด ECB จะ “คง” อัตราดอกเบี้ย แต่อาจเพิ่มวงเงินในโครงการซื้อสินทรัพย์ หรือ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) และขยายระยะเวลาโครงการออกไป รวมถึงติดตามการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ
คำแนะนำ เสี่ยงเปิดสถานะซื้อหากราคาสามารถยืนเหนือ 1,691-1,687 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ เพื่อหวังทำกำไรจากการดีดตัวขึ้นในช่วงสั้น โดยทยอยขายทำกำไรหากราคายังไม่ยืนเหนือโซน 1,708-1,712 ดอลลาร์ต่อออนซ์