นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า เอฟเฟ็กต์จากการประกาศผลประกอบของหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์(แบงก์) ประเมินว่าอาจจะไม่ได้สร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นไทยมากนัก เนื่องจากตลาดหุ้นไทยได้ซึมซับไปพอสมควรแล้วหลังจากโทนที่ออกมาไม่ค่อยดีนัก แต่ทั้งนี้โดยรวมหุ้นกลุ่มแบงก์ก็คงจะไม่ได้หนุนให้ตลาดปรับตัวดีขึ้นได้
นายภาสกร หวังวิวัฒน์เจริญ นักวิเคราะห์ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวต่อว่า ภาพโดยรวมหุ้นกลุ่มแบงก์จะเห็นภาพการตั้งสำรองที่สูงขึ้น ทั้งจากบางธนาคารที่มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ที่เกิดขึ้นจริง หรือบางธนาคารยังไม่เกิดเอ็นพีแอลแต่มีการตั้งสำรองเพื่อรองรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้นโดยรวมอาจจะเป็นเซนติเมนต์เชิงลบ เนื่องจากมีความกังวลเรื่องประเด็นคุณภาพสินทรัพย์ ดังนั้นฝ่ายวิจัยแนะนำนักลงทุนให้ “น้ำหนักน้อยกว่าตลาด” ด้วยเหตุผลคือ ภาพทิศทางเอ็นพีแอลที่มองว่ายังเป็นขาขึ้นอยู่ในช่วงครึ่งปีหลัง หลังจากมาตรการพักชำระหนี้ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ที่เริ่มทยอยหมดลงไป ก็จะเริ่มเห็นเอ็นพีแอลไหลออกมาบางส่วน ซึ่งอาจจะมีกลุ่มประเภทสินเชื่อเอสเอ็มอีที่จะหมดมาตรการก่อนวันที่ 30 ก.ย. ในขณะที่ลูกค้ารายย่อยก็อาจจะมีบางส่วนที่อาจจะหมดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้แบบแนวทางทั่วไปของ ธปท.แต่แบงก์ก็ยังสามารถอนุมัติขยายไปต่อได้เฉพาะบางกลุ่ม
