บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รายงานราคาทองคำประจำวันที่ 23 ก.ย. 2563
สรุป ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 10.58 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำยังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากปัจจัยหลักเดิม ได้แก่ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น +0.35% แตะระดับสูงสุดรอบเกือบ 8 สัปดาห์โดยได้รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงของ นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก ที่ถึงแม้นายอีแวนส์จะบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจเผชิญความเสี่ยงที่จะฟื้นตัวล่าช้า หรืออาจเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย หากคองเกรสไม่สามารถอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังรอบใหม่ได้
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- หุ้นกู้ออกใหม่ 12 บริษัทแห่ขายเดือน เม.ย.นี้ จ่ายดอกเบี้ยสูงสุด 7.40%
- ยื่นภาษีปี 2567 หมดเขตเมื่อไหร่ ยื่นไม่ทันต้องทำอย่างไร
อย่างไรก็ดี นายอีแวนส์ กลับมีมุมมองในเชิงสนับสนุนการคุมเข้มนโยบายการเงิน (Hawkish) ด้วยการระบุว่า เฟด “สามารถเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ก่อนที่จะเริ่มมีเงินเฟ้อเฉลี่ยที่ระดับ 2%” และเขาไม่คาดว่าเฟดจะเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ในเร็วๆ นี้
นอกจากนี้ สกุลเงินดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากการอ่อนค่าของเงินยูโรและปอนด์ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับยอดผู้ติด COVID-19 ที่พุ่งขึ้นในประเทศต่างๆ เช่น ฝรั่งเศส, สเปน และอังกฤษ อีกด้วย ปัจจัยที่กล่าวมากดดันให้ราคาทองคำร่วงแตะ 1,894.06 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ก็มีแรงซื้อ Buy the dip เข้ามาพยุงราคาไว้ทำให้ราคายังสามารถปิดตลาดเหนือระดับ 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -0.59 ตัน
สำหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการของสหรัฐ รวมไปถึง Testimony วันที่ 2 ของนายพาวเวลล์ ประธานเฟด และถ้อยแถลงนางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดคลีฟแลนด์
คำแนะนำ เน้นเก็งกำไรในกรอบในทิศทางอ่อนตัวลง โดยเสี่ยงขายในโซน 1,915-1,920 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เข้าซื้อคืนหากราคายืนเหนือโซน 1,882 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดมให้ชะลอการเข้าคืนไปโซนแนวรับถัดไป 1,862 ดอลลาร์ต่อออนซ์