ธนารักษ์ จัดระเบียบที่ดินใหม่ หวังเก็บค่าเช่าพุ่ง 1.5 หมื่นล้านบาท

ยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์

ธนารักษ์ ชี้ปีงบ’64 ตั้งเป้าดึงที่ดินราชการครอบครองแต่ไม่ใช้ประโยชน์กลับมาบริหารเอง หวังดึงเก็บรายได้พุ่ง 1.5 หมื่นล้านบาท พร้อมเดินหน้าเปลี่ยนผู้บุกรุกเป็นผู้เช่า 5 หมื่นราย

นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2564 กรมธนารักษ์จะดึงที่ราชพัสดุทั้งหมด 12.5 ล้านไร่ ซึ่งอยู่ในการดูแลของหน่วยงานราชการ 96% กลับมาบริหารจัดการเองเพิ่มขึ้นเป็น 10% จากเดิมกรมดูแลบริหารจัดการที่ดินราชพัสดุแค่ 4% ซึ่งจะทำให้กรมมีรายได้จากค่าเช่าที่ดินเพิ่มขึ้น ทำให้ภาพรวมรายได้ปี 2564 ของกรมอยู่ที่ 15,000 ล้านบาท จากปีงบประมาณ 2563 ซึ่งอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท

สำหรับนโยบายของกรมการเปลี่ยนผู้บุกรุกที่ราชพัสดุ ให้กลายมาเป็นผู้เช่ากับกรมนั้น ในปีงบประมาณหน้า กรมตั้งเป้าหมายไว้ที่ 50,000 รายจาก ปัจจุบันมีผู้บุกรุกและยังไม่เปลี่ยนเป็นผู้เช่าอยู่กว่า 100,000 ราย โดยคาดว่าไม่เกิน 2-3 ปี จะสามารถเปลี่ยนผู้บุกรุกเป็นผู้เช่าในระบบของกรมได้ทั้งหมด ซึ่งเป็นการใช้พื้นที่อย่างถูกกฎหมายขณะเดียวกันกรมก็จะมีรายได้จากค่าเช่าเพิ่มขึ้น

“บางพื้นที่เป็นที่บุกรุก เช่น แหล่งท่องเที่ยวแถวเกาะเต่า ซึ่งเป็นแหล่งดำน้ำระดับโลก มีการบุกรุกทำรีสอร์ท ซึ่งไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่สามารถเข้าพักได้ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมามีข่าวว่า มีการนำที่ดินบนเกาะเต่าที่อยู่ริมทะเลไปขายไร่ละ 5-10 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ไม่สามารถขายได้เนื่องจากเป็นที่ราชพัสดุ ซึ่งหากผู้บุกรุกเหล่านั้นหันมาทำสัญญาเช่าอย่างถูกต้องกับกรม ซึ่งมีระยะเวลาเช่านานถึง 30 ปีและสามารถต่ออายุได้ ก็จะทำให้การดำเนินธุรกิจถูกต้องตามกฎหมาย”


สำหรับกฎหมายตามเงื่อนไขกฎหมายของกรมที่เพิ่งมีผลบังคับใช้คือ ที่ดินราชพัสดุที่รัฐวิสาหกิจถือครอง จะต้องถูกเก็บค่าเช่าตามประเภทของการใช้ประโยชนในที่ดิน ทำให้ปัจจุบันมีหลายรัฐวิสาหกิจขอคืนที่ดินที่ครอบครองแต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ อาทิ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ที่ครอบครองที่ดินอยู่ 1.8 ล้านไร่ ซึ่งกำลังจะพิจารณาขอคืนที่ดินบางส่วน ซึ่งหาก กฟผ.ยังคงครอบครองที่ดิน 1.8 ล้านไร่จะต้องจ่ายค่าเช่าปีละหลายพันล้านบาท