คลัง เตรียมจ่ายเงินบัตรคนจนเพิ่ม-เปิดลงทะเบียนคนละครึ่ง

คลัง เตรียมจ่ายเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่ม 500 บาท 3 เดือน พร้อมเปิดลงทะเบียนโครงการ “คนละครึ่ง” 16 ต.ค.นี้ แจกเงิน 3 พันบาท ใช้จ่าย 150 บาทต่อวัน ระยะเวลา 3 เดือน หนุนเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจ 8.1 หมื่นล้านบาท คาดจีดีพีลบน้อยกว่า -7.8% ลั่น! วันแรกยอดลงทะเบียนทะลุ 10 ล้านคน

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันที่ 29 ก.ย.63 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ซึ่งได้เสนอโครงการที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการคลัง 2 โครงการ ประกอบด้วย (1) โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และ (2) โครงการคนละครึ่ง

สำหรับรายละเอียดโครงการนั้น 1. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ผู้มีบัตรฯ) มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือเยียวยา และลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่กลุ่มผู้มีบัตรฯ ประมาณ 14 ล้านคน ในช่วงที่มีสถานการณ์ COVID-19 ซึ่งทำให้กลุ่มผู้มีบัตรฯ ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ มีรายได้ลดลงและไม่สามารถหารายได้จากแหล่งอื่นมาทดแทนได้

โดยโครงการดังกล่าว จะเป็นการช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้าบริโภคอุปโภคที่จำเป็นจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น จำนวน 500 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนต.ค.-ธ.ค.63 เป็นวงเงินรวม 21,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถจ่ายเงินงวดแรกได้ช่วงครึ่งหลังของเดือนต.ค. ซึ่งผู้ถือบัตรสวัสดิการจะได้รับผ่านโครงการดังกล่าว ช้ากว่าวงเงินเดิมที่เคยได้รับ

2. โครงการคนละครึ่ง มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจระดับฐานราก สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยโดยเฉพาะกลุ่มหาบเร่ แผงลอย เพื่อให้มีรายได้จากการขายสินค้าเพิ่มขึ้น โดยภาครัฐร่วมจ่ายค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไปผ่านฝ่ายของผู้ซื้อร้อยละ 50 ทั้งนี้ ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน หรือไม่เกิน 3,000 บาทต่อคนตลอดระยะเวลาโครงการ เป็นวงเงินรวม 30,000 ล้านบาท ซึ่งการร่วมจ่ายคนละครึ่งนี้จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนและจะช่วยเติมกำลังซื้อของประชาชนเพื่อให้มีการใช้จ่ายหมุนเวียนไปถึงผู้ประกอบการรายย่อยได้อย่างต่อเนื่องเป็นเงิน 60,000 ล้านบาท

กระทรวงการคลังคาดว่า โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและโครงการคนละครึ่ง จะช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อย และช่วยรักษากำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจ จากการเติมเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ 81,000 ล้านบาท ครอบคลุมประชาชน 24 ล้านคน ซึ่งจะช่วยให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปี 2563 และส่งแรงขับเคลื่อนต่อเนื่องไปยังปี 2564

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า โครงการดังกล่าวจะทำให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้ติดลบน้อยกว่าที่สศค.ประเมิน อยู่ที่ระดับ -8.5% และอาจติดลบน้อยกว่า 7.8% ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)คาดการณ์โดย

“คาดว่าวันแรก 16 ต.ค.63 ที่เปิดลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง จะมียอดลงทะเบียนทะลุ 10 ล้านคนภายในวันเดียว ซึ่งธนาคารกรุงไทยมีการเตรียมความพร้อมในการรองรับระบบได้สูงสุดกว่า 2 แสนคน และสามารถประมวลผลได้ 5 พันทรานเซ็กชัน เชื่อว่าจะรองรับการลงทะเบียนของประชาชนได้ ส่วนร้านค้าที่จะเข้ามาร่วมโครงการขณะนี้มีร้านเดิมที่อยู่ในโครงการชิมช้อปใช้ และเราเที่ยวด้วยกัน รวม 1 แสนร้านค้าแล้ว ตั้งเป้าจะมีร้านค้าเพิ่มเข้ามาอีก 1 แสนร้านค้า”

โดยโครงการคนละครึ่งจะเริ่มให้ประชาชนผู้ที่มีสัญชาติไทย มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และมีบัตรประจำตัวประชาชน ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง. com ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2563 เวลา 06.00 น. – 23.00 น. จำกัดจำนวนไม่เกิน 10 ล้านคน โดยผู้ได้รับสิทธิ ต้องยืนยันตัวตนผ่าน g-Wallet แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” อีกขั้นตอนหนึ่งด้วย จึงจะสามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ที่เข้าร่วมโครงการเพื่อรับสิทธิได้

ขณะที่การใช้จ่ายจะมีช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2563 – 31 ธันวาคม 2563 ในเวลา 06.00 น. – 23.00 น. ซึ่งผู้ได้รับสิทธิจะต้องเริ่มใช้จ่ายภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ตนได้รับ SMS แจ้งรับสิทธิหรือวันที่เปิดให้เริ่มใช้จ่ายตามโครงการ มิเช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิและไม่สามารถลงทะเบียนได้อีก โดยสิทธิที่ถูกตัดจะนำไปเปิดให้ลงทะเบียนใหม่

ทั้งนี้ สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.63 เวลา 06.00 น. – 23.00 น. ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง. com หรือลงทะเบียนผ่านทางสาขาธนาคารกรุงไทย โดยธนาคารกรุงไทยจะช่วยติดตั้งแอปพลิเคชั่น “ถุงเงิน” เพื่อใช้ในการรับชำระเงินจากการขายสินค้า