หุ้นไทยปิดตลาด -0.34% กูรูวิเคราะห์สัปดาห์หน้ามีโอกาสบวกถึง 1,280 จุด

ภาพประกอบข่าวการลงทุน-กราฟ-หุ้น-ดัชนี-ตลาดหุ้น-ลงทุน 2
Photo by Mark Finn on Unsplash

SET Index เผชิญแรงขายเล็กน้อย -0.34% หลังปรับขึ้นชนแนวต้าน 1,270 จุด นักวิเคราะห์ประเมินสัปดาห์หน้าบวกทดสอบ 1,280 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนเล่นหุ้นบิ๊กแคปตามสถาบัน ‘PTT-PTTGC-IVL-BBL-SAWAD-BGRIM ‘

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยภาพรวมตลาดหุ้นไทยประจำวันที่ 6 พ.ย.63 ว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET (SET Index) ปิดลบที่ 1,260.08 จุด ลดลง 4.24 จุด หรือลดลง 0.34% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 73,524.08 ล้านบาท โดยดัชนีเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับที่ฝ่ายวิจัยประเมินเอาไว้ระหว่าง 1,250-,1275 จุด หลังระหว่างวัน SET Index ปรับลงทำจุดต่ำสุดที่ 1,251.08 จุด และสูงสุดที่ 1,270.22 จุด

ทั้งนี้ กลุ่มนักลงทุนในประเทศมียอดซื้อสุทธิสูงสุดที่ 1,478.15 ล้านบาท และนักลงทุนบัญชี บล.ซื้อสุทธิ 1,172.35 ล้านบาท ขณะที่กลุ่มนักลงทุนสถาบันเป็นยอดขายสุทธิสูงสุดที่ 2,101.64 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิเช่นกันที่ 548.85 ล้านบาท

ขณะที่กลุ่มหุ้นที่ปรับขึ้นนำตลาดมากที่สุดเป็นหุ้นขนาดใหญ่ (Big Cap) ที่นักลงทุนสถาบันหมุนเวียนกลุ่มลงทุน (Sector Rotation) นำโดย GULF +3.20% GPSC +5.83% BBL +4.93% SCB +3.32% และ KBANK +2.23% ซึ่งกลุ่มพลังงานเป็นหุ้นบิ๊กแคปที่นักลงทุนสถาบันยังมีสัดส่วนการถือครองน้อย อีกทั้งมูลค่า (Valuation) อยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ

ส่วนปัจจัยสำคัญที่แวดล้อมตลาดหุ้น นายวิจิตร กล่าวว่า ในต่างประเทศยังไร้ปัจจัยใหม่ๆ เข้ามากระทบกับ SET Index โดยในส่วนของประเด็นร้อนอย่างผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่ยังไม่สิ้นสุดนั้น ประเมินว่าตลาดรับรู้ความเสี่ยง ได้แก่ การประท้วงของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ความล่าช้าของกระบวนการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือการที่พรรคที่ได้รับชัยชนะไม่ได้ครองเสียงทั้งสภาบนและสภาล่างไปแล้ว

Advertisment

อย่างไรก็ดี ในส่วนของปัจจัยในประเทศให้น้ำหนักกับการนัดชุมนุมในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยฝ่ายวิจัยเชื่อว่านักลงทุนเริ่มชินชากับการชุมนุมทางการเมือง ดังนั้น หากไร้เหตุการณ์ความรุนแรง คาดว่าปัจจัยดังกล่าวจะไม่ส่งผลกดดันตลาดหุ้น

นอกจากนี้ ยังให้น้ำหนักกับการประกาศงบไตรมาส 3/63 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในประเทศ ซึ่งหุ้นบิ๊กแคปที่กำไรไตรมาสนี้ไม่โดดเด่นนัก แนะนำว่าจังหวะที่ราคาหุ้นปรับฐานจากการประกาศกำไรสุทธิถือเป็นจังหวะเข้าซื้อได้ โดยเลือกลงทุนหุ้นอิงกับแรงซื้อนักลงทุนสถาบัน ได้แก่

  • พลังงาน: PTT
  • ปิโตรเคมี: PTTGC และ IVL
  • ธนาคาร-ไฟแนนซ์: BBL และ SAWAD
  • โรงไฟฟ้า: BGRIM

“เราคาดว่าบรรยากาศของ SET Index เริ่มเป็นบวก และคาดว่าสัปดาห์หน้า (9-13 พ.ย.) จะเป็นการแกว่งออกข้าง (Sideway) ไปจนถึงแกว่งขึ้น (Sideway Up) โดยมีกรอบแนวรับที่ 1,250 จุด และในกรณีเลวร้ายสุดที่ 1,230 จุด ส่วนแนวต้านสัปดาห์หน้าประเมินไว้ที่ 1,280 จุด ใกล้เคียงกับจุดสูงสุดเดิมช่วงเดือน ส.ค.ที่ 1,282 จุด” นายวิจิตร กล่าวสรุป