คปภ.เข้าพบ “ขุนคลัง” รับนโยบาย ลุ้น! เพิ่มลดหย่อนภาษีประกันสุขภาพเท่าประกันชีวิต

สำนักงาน คปภ.รับมอบนโยบายจาก รมว.คลัง มาหมด! ศึกษา “ประกันภัยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ-เพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีประกันภัยสุขภาพเทียบเท่ากับประกันชีวิต-จัดทำประกันภัยโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของรัฐ (สนามบิน รถไฟ รถยนต์ของราชการ)-ส่งเสริมขยายการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ”

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า สำนักงานได้เข้ารับมอบนโยบายจากนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อนำระบบประกันภัยขับเคลื่อนนโยบายเพื่อสร้างเสริมความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชนในทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มฐานราก รวมถึงพัฒนาให้ระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้มีความเข้มแข็ง และลดความเหลื่อมล้ำอย่างยั่งยืน ผ่านมาตรการที่สำคัญดังนี้

1.การจัดทำประกันภัยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยรัฐบาลสนับสนุนเบี้ยประกันภัย ซึ่งถือเป็นแนวคิดที่น่าสนใจ จะทำให้ประชาชนในกลุ่ม “ฐานราก” ได้รับความคุ้มครองจากการประกันภัย จึงจะเร่งให้มีการศึกษาความเป็นไปได้ นอกจากนี้ยังเห็นว่าควรมีการส่งเสริมให้ประชาชนทุกคนทุกอาชีพตระหนักและเห็นความสำคัญของการออมในระยะยาว เพื่อสร้างหลักประกันและความมั่นคงในชีวิต

2.การส่งเสริมการประกันสุขภาพ ให้เน้นการดำเนินงานที่ส่งผลให้คนไทยเห็นความสำคัญของการจัดทำประกันชีวิตและการจัดทำประกันสุขภาพเพิ่มมากขึ้น และเห็นด้วยกับแนวทางการเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีโดยใช้การประกันภัยสุขภาพเพิ่มในส่วนของค่าลดหย่อนให้เทียบเท่ากับประกันชีวิต ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงการคลังที่ได้มอบหมายให้กรมสรรพากรทบทวนความเหมาะสมของวงเงินค่าลดหย่อนภาษีประจำปีประเภทต่างๆ

3.เห็นควรส่งเสริมการจัดทำประกันภัยสำหรับโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมของรัฐ อาทิ เช่น สนามบิน รถไฟ หรือการประกันภัยสำหรับรถยนต์ของราชการ เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการจัดทำประกันภัย จึงควรมีการศึกษาและส่งเสริมให้มีการจัดทำประกันภัยสำหรับทรัพย์สินของทางราชการและโครงการของรัฐ เพื่อบริหารความเสี่ยงให้กับภาครัฐ

4.ควรส่งเสริมให้บริษัทประกันภัยขยายการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ เพิ่มเติมจากเขตอุตสาหกรรม EEC อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย เป็นต้น ซึ่งการลงทุนอาจแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ คือ 1.รัฐบาลลงทุนเอง 2.ให้เอกชนลงทุน โดยอาจกำหนดให้เอกชนลงทุนทั้งหมด หรือ เอกชนลงทุนเฉพาะส่วน O&M (Operation & Maintenance) แล้วรัฐบาลลงทุนในส่วนของการก่อสร้าง โดยทำ financial model เพื่อพิจารณาเลือกวิธีการลงทุนที่เหมาะสม

5.กรณีการจัดทำประกันภัยคุ้มครองการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของนักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศนั้น ควรส่งเสริมบริษัทประกันภัยในประเทศให้สามารถขายกรมธรรม์ประกันภัยให้แก่ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย โดยสามารถซื้อประกันภัยผ่านช่องทางออนไลน์ได้จากประเทศต้นทาง

ทั้งนี้ รมว.คลัง ขอให้สำนักงาน คปภ. ติดตามความคืบหน้าของโครงการที่ได้มีการเสนอกระทรวงการคลัง เช่น การรับประกันภัยต่อ การนำประกันภัยมาต่อยอดสวัสดิการแห่งรัฐ รวมถึงการประกันภัยพืชผลโดยเฉพาะพืชเศรษฐกิจหลักของประเทศ เป็นต้น ซึ่งหากมีปัญหาอย่างไรก็ขอให้แจ้งมาให้ทราบด้วย

“คปภ.พร้อมรับนโยบายของ รมว.คลัง โดยจะบูรณาการความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมประกันภัย และภาคส่วนอื่น ๆ ตลอดจนทุ่มเทสรรพกำลังในการขับเคลื่อนระบบประกันภัยไทย ให้เป็นหลักประกันความมั่นคงของประชาชน อันจะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป” เลขาธิการ คปภ.กล่าว