กรุงศรีฯ เข็น “เงินติดล้อ” เข้าตลาดหุ้น ระดมทุนไม่เกิน 1,043 ล้านหุ้น

นายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา(BAY) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ว่า บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ NTL ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้าของธนาคารที่ธนาคารถือหุ้น 50% และที่ Siam Asia Credit Access Ple Ltd (SACA) ถือหุ้น 50% อยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อการออกและเสนอขายหุ้นต่อบระชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) และจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประทศไทย โดย NTL เป็นผู้ให้บริการทางการเงินชั้นนำที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ ซึ่งให้บริการภายภายใต้ชื่อแบรนด์ “เงินติดล้อ”

ในการนี้ได้ยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก ล.ต.) เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.63 โดยธนาคารในฐานะผู้ถือหุ้นอาจพิจารณาเสนอขายหุ้นบางส่วนที่ถืออยู่ใน NTL ต่อประชาชนในคราวเดียวกับไอพีโอของ NTL ซึ่งได้ยื่นแบบแสดรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต.ไปพร้อมกัน

โดยรายละเอียดที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการออกและเสนอขายหุ้นสามัญของ NTL มีดังนี้

– จำนวนหุ้นสามัญของ NTL ทั้งหมดที่จะมีการเสนอขายครั้งนี้ ไม่เกิน 1,043,542,800 หุ้น ประกอบด้วย

1. จำนวนหุ้นสามัญที่ออกใหม่ที่เสนอขายโดย NTL ไม่เกิน 210,816,700 หุ้น

2.จำนวนหุ้นสามัญเดิมของ NTL ที่อาจเสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิมไม่เกิน 832,726,100 หุ้น โดยแบ่งเป็น 2.1.จำนวนหุ้นสามัญเดิมของ NTL ที่อาจเสนอขายโดยธนาคารไม่เกิน 284,144,300 หุ้น 2.2.จำนวนหุ้นสามัญเดิมของ NTL ที่อาจเสนอขายโดย SACA ไม่เกิน 412,467,600 หุ้น และ 2.3.จำนวนหุ้นสามัญเดิมขอ NTL ที่ผู้จัดสรรหันส่วนเกินอาจขอยืมจากธนาคาร และ SACA ในจำนวนรวมกันไม่เกิน 136,114.200 หุ้น คิดเป็นจำนวนไม่เกิน 15.0% ของจำนวนหุ้นสามัญที่เสนอขายทั้งหมดใน IPO เพื่อรองรับกรณีที่ต้องมีการจัดสรรหุ้นสวนเกิน

ทั้งนี้หุ้น NTL มีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 3.70 บาท สำหรับราคาเสนอขายหุ้นต่อประชาชน จะมีการกำหนดต่อไป

ภายหลังจาก NTL ได้รับการอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต. ให้เสนอขายหุ้นต่อประชาชนเล้ว

ภายหลังการไอพีโอ และการเสนอขายหุ้นสามัญเดิม โดยผู้ถือหุ้นของ NTL สัดส่วนการถือหุ้นของธนาาคารใน NTL จะลดลงดังนี้

1.ในกรณีที่ไม่มีการใช้สิทธิซื้อหุ้นส่วนเกิน สัดส่วนการถือหุ้นของธนาคารใน NTL จะลดลงเป็นไม่ต่ำกว่า 33.20% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด

2.ในกรณีที่มีการใช้สิทธิซื้อหุ้นส่วนเกินทั้งจำนวน สัดส่วนการถือหุ้นของธนาคารใน NTL จะลดลงเป็นไม่ต่ำกว่า 30% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด