ออมสิน ดึงระบบดิจิทัล พัฒนา “ธนาคารโรงเรียน” หนุนเด็กออม

ออมสิน ยกระดับโครงการธนาคารโรงเรียนสู่ยุคดิจิทัล ตั้งเป้าปี’64 นำร่อง 50 แห่ง หนุนเด็กเยาวชนออมระยะยาว ฝากได้ตั้งแต่ 1 บาท พร้อมเปิดรับสมัครโรงเรียนเข้าร่วมโครงการ เผยปัจจุบันเด็กฝากแล้ว 2.6 ล้านบัญชี 1,235 โรงเรียน เงินฝาก 1,200 ล้านบาท

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ในปี 64 ธนาคารตั้งเป้าหมายยกระดับโครงการธนาคารโรงเรียน เพื่อส่งเสริมการออมให้เด็กและเยาวชนมากยิ่งขึ้น  โดยจะมีการนำระบบดิจิทัล เข้ามาเชื่อมโยงข้อมูลธนาคารโรงเรียนเข้ากับระบบธนาคารออมสิน เพื่อให้มีความสะดวกทันสมัย และนักเรียนสามารถออมเงินได้ระยะยาวหลังจากเรียนจบไปแล้ว ตลอดจนสามารถนำประวัติการออมในวัยเด็กเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาเครดิตเพื่อปล่อยสินเชื่อในอนาคตได้

“ที่ผ่านมาโครงการธนาคารโรงเรียนไม่ได้เชื่อมข้อมูลบัญชีเข้ากับของธนาคารออมสิน โดยแต่ละโรงเรียนจะมีข้อมูลบัญชีของตัวเอง หากใครเรียนจบหรือย้ายโรงเรียนก็ต้องหยุดฝากเงินกับธนาคารโรงเรียนนั้นอัตโนมัติ ทำให้ขาดความต่อเนื่องในการออม แต่ในปี 64 จะเป็นปีแรกที่ออมสินเริ่มพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลบัญชีธนาคารโรงเรียนร่วมกัน ซึ่งช่วยให้นักเรียนที่ฝากเงินกับธนาคารโรงเรียน เมื่อเรียนจบแล้วก็จะถือเป็นลูกค้าของธนาคารออมสิน และสามารถฝากเงินต่อเนื่องได้ทันที โดยไม่ต้องปิดบัญชีแล้วมาเปิดใหม่ ซึ่งปีแรกตั้งเป้าหมายจะเชื่อมข้อมูลเข้ากับธนาคารโรงเรียนได้ไม่ต่ำกว่า 50 แห่ง”

นอกจากนี้ ในปี 64 ออมสินจะกลับมารับสมัครโรงเรียนเข้าร่วมโครงการธนาคารโรงเรียนอีกครั้ง หลังจากหยุดไปเมื่อปีก่อน โดยสถาบันการศึกษาสนใจสามารถเข้าสมัครได้ ซึ่งจะได้รับการสนับสนุนจากออมสิน เงินทุนประเดิม 5,000 บาท คอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ เครื่องมือในการรับฝากเงิน รวมถึงการอบรมให้ความรู้แก่นักเรียน ครู อาจารย์ในการบริหารจัดการ โดยมีสาขาออมสินในพื้นที่เป็นพี่เลี้ยงให้ ซึ่งนักเรียนที่เปิดบัญชีสามารถฝาก-ถอนได้ปกติ และได้รับดอกเบี้ยเท่ากับบัญชีเผื่อเรียกของออมสิน ฝากขั้นต่ำเริ่มต้น 1 บาท สูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท รวมทั้งได้สิทธิร่วมกิจกรรมดนตรี กีฬา งานวิชาการ ทุนกและการศึกษา ขณะที่โรงเรียนก็จะได้รับสนับสนุนดอกเบี้ยเพิ่มเติมเพื่อนำไปใช้บริหารจัดการด้วย

นายวิทัยกล่าวว่า ปัจจุบัน ธนาคารได้ดำเนินโครงการธนาคารโรงเรียนมาแล้วเป็นปีที่ 23 ซึ่งมีโรงเรียน และสถานศึกษา ทั้งระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาเข้าร่วมกว่า 1,235 แห่ง มีบัญชีเงินฝากที่เคลื่อนไหวปัจจุบัน 2.6 ล้านบัญชี และมียอดเงินฝาก 1,200 ล้านบาท สำหรับโครงการนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างนิสัยในการออมใหเด็กและเยาวชน เพื่อให้เติบโตกลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีวินัยทางการเงินในอนาคต อีกทั้งโรงเรียนและเด็กนักเรียนที่เข้าร่วมยังได้เรียนรู้ระบบการฝากการถอนเงินของธนาคารอีกด้วย

ส่วนการจัดงานวันเด็กในปีนี้ ธนาคารได้เลื่อนการจัดกิจกรรมทั้งที่สำนักงานใหญ่ รวมถึงที่สาขาทั่วประเทศออกไป เนื่องจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กระจายในหลายพื้นที่  แต่หลังจากสถานการณ์คลี่คลายธนาคารจะกลับมาจัดงานและเปิดให้เด็กฝากเงินเพื่อรับของที่ระลึกเป็นกรณีพิเศษเนื่องในวันเด็กแห่งชาติใหม่อีกครั้ง โดยจะประกาศให้ทราบในโอกาสต่อไป