“กรุงไทย” กำไรปี’63 เหลือ 16,732 ล้านบาท ลดลง 42.9%

“ธนาคารกรุงไทย” กำไรปี’63 จำนวน 16,732 ล้านบาท ลดลง 42.9% เฉพาะไตรมาส 4/63 หดตัวแรง 53.7% เหลือ 3,453 ล้านบาท ไตรมาส 4/63 ตั้งสำรองสูง 9,254 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 91.8% หนี้เสียทั้งปีอยู่ที่ 3.81% ลดลงจาก 4.33%

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย(KTB) เปิดเผยว่า ปี 2563 ธนาคารมีกำไรสุทธิ
อยู่ที่ 16,732 ล้านบาท ลดลง 42.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อนทำได้ 29,284 ล้านบาท เฉพาะช่วงไตรมาส 4/63 มีกำไรสุทธิ 3,453 ล้านบาท ลดลง 53.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อนทำได้ 7,459 ล้านบาท

โดยผลจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิทั้งปีอยู่ที่ 88,343 ล้านบาท ทรงตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ทำได้ 88,316 ล้านบาท เฉพาะไตรมาส 4/63 อยู่ที่ 20,320 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 1.9% แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายและอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยพิเศษที่เพิ่มขึ้น สินเชื่อที่เติบโตดี ซึ่งธนาคารขยายสินเชื่อด้วยความระมัดระวัง และต้นทุนทางการเงินที่ลดลง ช่วยลดผลกระทบจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว ประกอบกับค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานลดลงมากถึง 14.4% ส่งผลให้ Cost to Income ratio เท่ากับ 43.7% ลดลงจาก 49.7% ในปี 2562

โดยธนาคารและบริษัทย่อยทยอยตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในระดับที่สูง จำนวน 44,903 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 88.6% เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายหนี้สูญ หนี้สงสัยจะสูญในปี 2562 โดยพิจารณาอย่างรอบคอบถึงปัจจัยแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและมีความไม่แน่นอนสูงที่อาจส่งผลต่อคุณภาพสินเชื่อ หรือ NPLs Cliff

เฉพาะในไตรมาส 4/63 ธนาคารตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 9,254 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 91.8%

สิ้นปี 63 ธนาคารมียอดสินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับสุทธิ 2,197,674 ล้านบาท เติบโต 12% จากสิ้นปี 62 โดยธนาคาร (งบการเงินเฉพาะ) มีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 15.35% และอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยงที่ 18.76% ซึ่งอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)

ในปี 2563 ธนาคารได้เผชิญกับความท้าทายในการดำเนินธุรกิจและภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่กลับสู่ภาวะปกติเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ธนาคารได้ให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการดำเนินการมาตรการต่างๆ อีกทั้งได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ธุรกิจสามารถปรับตัวภายใต้สภาวะ New Normal ได้โดยเร็ว

นอกจากนี้ ธนาคารได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินดิจิทัลรูปแบบใหม่ การให้บริการด้านการพัฒนา Innovation & Digital Platform เพื่อเข้าสู่ Open Banking, Virtual Digital Banking Service รวมถึง New Business Model อย่างเต็มรูปแบบ ผ่านบริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย จำกัด (Infinitas by Krungthai) ที่จัดตั้งขึ้นในเดือน ต.ค.63

อย่างไรก็ตามธนาคารได้เดินหน้าออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ทำให้อัตราส่วน Coverage Ratio สิ้นปี 63 เพิ่มขึ้นเป็น 147.3% จาก 131.8% สิ้นปี 62 ควบคู่กับการบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารโดยมี NPLs Ratio-Gross เท่ากับ 3.81% ลดลงจาก 4.33%