บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รายงานราคาทองคำประจำวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564
- ร้อนทะลุ-โลกเดือด “เอลนีโญ” ถึง “ลานีญา” ถล่มประเทศไทย
- ปิดโรงงานยอดเพิ่มเท่าตัว จับตาธุรกิจรถมือสองเสี่ยง
- ส่อง 70 หุ้นจ่ายปันผล ขึ้น XD สัปดาห์หน้า บจ.ไหนจ่ายสูง 8.50 บาท/หุ้น ?
สรุป ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 4.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ในระหว่างวันราคาทองคำจะพยายามดีดตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,844.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อ Buy the dip รวมถึงการดีดตัวในระยะสั้นของสกุลเงินยูโรหลังจากสื่อต่างประเทศรายงานว่า นายมาริโอ้ ดรากี อดีตประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) “ตอบรับคำขอ” ของนายเซอร์จิโอ แมตตาเรลลา ประธานาธิบดีอิตาลีให้เข้ามาช่วยจัดตั้งรัฐบาลเพื่อจัดการกับปัญหาการระบาดของไวรัส COVID-19 และภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่รุนแรงของอิตาลี
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้ พร้อมกับมีแรงขายทำกำไรสลับออกมา นอกจากนี้ทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีเกินคาดทุกรายการ ไม่ว่าจะเป็นการจ้างงานของภาคเอกชนจาก ADP ที่เพิ่มขึ้นเกินคาดถึง 174,000 ตำแหน่งในเดือน ม.ค. ส่วนดัชนีภาคบริการของสหรัฐจาก ISM ก็ดีดตัวเกินคาดสู่ระดับ 58.7 ในเดือน ม.ค. ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าในช่วงก่อนการระบาดของ COVID-19 รวมถึงดัชนี PMI ภาคบริการขั้นสุดท้ายจากมาร์กิตก็ปรับตัวขึ้นเกินคาดสู่ระดับ 58.3 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในรอบเกือบ 6 ปีเช่นกัน สถานการณ์ดังกล่าวสกัดช่วงบวกของราคาทองคำเอาไว้
ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง แต่โดยรวมแล้วนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน กองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลง -13.24 ตัน ซึ่งเป็นปัจจัยที่นักลงทุนต้องติดตามต่อไป
สำหรับวันนี้ติดตามผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) รวมถึงการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ประสิทธิภาพการผลิตต่อหน่วย, ประสิทธิภาพต้นทุนแรงงานต่อหน่วย และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐ
แนะนำ เข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,821-1,818 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ และทยอยปิดสถานะซื้อเพื่อทำกำไรบางส่วนเพื่อรอซื้อใหม่หากราคาไม่ผ่านแนวต้านบริเวณแนวรับ 1,850-1,856 ดอลลาร์ต่อออนซ์