บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รายงานราคาทองคำประจำวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
สรุป ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 17.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ในระหว่างวัน ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,847 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐ หลังจากเมื่อวานนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้สนทนากันทางโทรศัพท์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ ปธน.ไบเดน สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ และดูเหมือนว่าการสนทนาจะเกิดความขัดแย้งกันในประเด็นส่วนใหญ่
อาทิ การขยายอิทธิพลของจีนในอินโด-แปซิฟิก การปฏิบัติของจีนในฮ่องกง ซินเจียง และไต้หวัน ขณะที่ประธานาธิบดีสีเตือนว่า การเผชิญหน้ากันจะเป็น “หายนะ” สำหรับทั้งสองประเทศ สถานการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดการคาดการณ์ว่าสหรัฐจะยังคงรักษาท่าทีในเชิงแข็งกร้าวต่อจีน ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ประกอบกับกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ที่ระดับ 793,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ จึงเป็นปัจจัยกดดันดอลลาร์และหนุนราคาทองคำเพิ่มเติม
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้ เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์เริ่มฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดที่ลงไปทดสอบในระหว่างวัน ประกอบกับเกิดแรงขายทำกำไรและขายทางเทคนิกสลับออกมาในตลาดทองคำ จนส่งผลให้ราคาทองคำร่วงลงแรงและแตะระดับต่ำสุดในบริเวณ 1,820.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองลดลง -4.37 ตันสู่ระดับ 1,142.22 ตัน สำหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผยคาดการณ์ความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก UoM และคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อจาก UoM
คำแนะนำ สามารถถือทองคำต่อได้หากราคาไม่หลุดแนวรับ 1,808-1,805 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และไปรอลุ้นขายทำกำไรบริเวณแนวต้าน 1,839-1,855 ดอลลาร์ต่อออนซ์