การยาสูบฯ ชี้หลังสงกรานต์เปิดให้ชาวไร่ยาสูบลงทะเบียนปลูกกัญชง-กัญชา

ปลด 5 ตำรับกัญชาใช้เป็นยาได้
ภาพโดย GAD-BM จาก Pixabay

การยาสูบฯ ชี้หลังสงกรานต์เปิดให้ชาวไร่ยาสูบลงทะเบียนปลูกกัญชง-กัญชา เริ่มปลูกได้ ส.ค.นี้

วันที่ 29 มี.ค. 2564 นายภาณุพล รัตนกาญจนภัทร ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการส่งเสริมเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบ ปลูกพืชกัญชง-กัญชา เป็นพืชเสริม โดยคาดว่าในสัปดาห์นี้จะได้ความชัดเจนจากกฤษฎีกา และคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ว่า

ยสท.มีขอบเขตอำนาจในการดำเนินการดังกล่าวมากน้อยแค่ไหน รวมทั้งยังเตรียมหารือร่วมกับองค์การเภสัชกรรม กรมแพทย์แผนไทย และสถาบันจุฬาภรณ์ฯ ถึงแนวทางในการนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์เพิ่มเติมจากที่คุยเบื้องต้นไปแล้วก่อนหน้านี้

ทั้งนี้หากกฤษฎีกาตีความชัดเจนแล้ว คาดว่าหลังสงกรานต์ ยสท. จะเริ่มเปิดให้เกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบที่เป็นเครือข่ายของ ยสท. ได้ลงทะเบียนเพื่อปลูกกัญชง-กัญชา เป็นพืชเสริมได้ และจะสามารถเริ่มปลูกได้ช่วงเดือนสิงหาคมปีนี้ โดยช่วงแรกจะเป็นการสนับสนุนการปลูกพืชกัญชงก่อน เนื่องจากตลาดกัญชงกว้างกว่า มีมูลค่าตลาดเป็นแสนล้านบาท ขณะที่กัญชาจะใช้ได้เฉพาะทางการแพทย์

“2 สัปดาห์แรกหลังกฤษฎีกาตีความชัดเจน จะมีการหารือกับนักวิชาการและพูดคุยกับชาวไร่เพื่อรับฟังความคิดเห็นโดยเฉพาะจากชาวไร่รุ่นใหม่ เพื่อกำหนดแนวทางที่จะเดินร่วมกัน ยาสูบไม่ได้มองว่าจะมีกำไรหรือไม่ เพราะจะไม่มีการนำพืชพวกนี้มาใช้กับบุหรี่เด็ดขาด

ยกเว้นมีใครจ้างยาสูบผลิตสำหรับใช้ในบุหรี่ไฟฟ้าส่งไปต่างประเทศ ซึ่งยังต้องดูเรื่องกฎหมายว่ายาสูบสามารถทำได้หรือไม่ เพราะมีเรื่องของการส่งออก แต่จะไม่มีการใช้ใบบุหรี่ในประเทศแน่นอน ซึ่งจะใช้ในเรื่องการแพทย์ เรื่องเส้นใยเท่านั้น”

อย่างไรก็ตามผู้ว่า ยสท.กล่าวว่า ในการส่งเสริมให้ชาวไร่ได้ปลูกพืชกัญชง-กัญชา จะต้องมีการประกันราคาผลผลิตให้ชาวไร่ด้วย ซึ่งผู้ที่จะกำหนดราคาจะต้องรอดูความชัดเจนจากกฤษฎีกาอีกครั้ง ทั้งนี้ที่ผ่านมา ยสท. ได้หารือร่วมกับองค์การต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเตรียมตลาดรองรับผลผลิตกัญชง-กัญชา รวมทั้งหารือกับสถาบันการเงินเพื่อหาแหล่งเงินทุนให้ชาวไร่ด้วย

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ยสท. มีเครือข่ายเกษตรชาวไร่ผู้ปลูกใบยาสูบที่ขึ้นทะเบียนกับ ยสท. จำนวน 13,500 ครัวเรือน ซึ่งที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตบุหรี่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อยอดขายของ ยสท. ทำให้โรงงานยาสูบรับซื้อใบยาสูบจากเกษตรลดลงจากเดิม 28 ล้านกิโลกรัมต่อปี เหลือ 13 ล้านกิโลกรัมต่อปี

ส่งผลกระทบต่อรายได้หายไปประมาณ 50% ซึ่งการปรับพื้นที่มาปลูกพืชกัญชาเสริม จะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น จากเดิมมีรายได้จากการปลูกใบยาสูบจะอยู่ที่ 23,000-24,000 บาทต่อไร่ หากปลูกพืชกัญชาคาดว่าจะมีรายได้ขั้นต่ำ 70,000-80,000 บาทต่อไร่