หุ้น-การเงิน

จัดเต็มช้อปช่วยชาติ15พ.ย. ธุรกิจเด้งรับสะพัด1.2หมื่นล.

คลังสนอง “บิ๊กตู่” ชงลดหย่อนภาษี “ช้อปช่วยชาติ” 19 วัน เริ่มเร็วขึ้น 15 พ.ย.-3 ธ.ค. “อภิศักดิ์” ชี้ปลุกมู้ดจับจ่าย-กระตุ้น GDP ลุ้นเศรษฐกิจโตติดลมบนกว่า 4% ค้าปลีก-ขายตรงเฮ ! อัดแคมเปญรับ คาดเงินสะพัด 1.2 หมื่นล้าน นักวิเคราะห์มองต่างมุมกระตุ้นแค่ระยะสั้น

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กระทรวงการคลังเตรียมนำมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการใช้จ่ายภายในประเทศ หรือ “ช้อปช่วยชาติ” มาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี 2560 นี้อีกครั้ง ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่สั่งการให้พิจารณาออกมาตรการดังกล่าว ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้รัฐได้นำมาตรการช้อปช่วยชาติมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจปลายปีมาแล้ว 2 ปี ครั้งแรกปลายปี 2558 เป็นเวลา 7 วัน ระหว่าง 25-31 ธ.ค. 2558 และปี 2559 เพิ่มเป็น 18 วัน ระหว่าง 14-31 ธ.ค. 2559

ชง ครม.ดีเดย์ 15-พ.ย.-3 ธ.ค.

“ขณะนี้กำหนดเบื้องต้นว่า มาตรการปีนี้จะใช้เวลา 19 วัน จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ 14 พ.ย.นี้ แล้วให้มีผลตั้งแต่ 15 พ.ย. จนถึง 3 ธ.ค. เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจตั้งแต่เดือน พ.ย. ให้มีผลกับ GDP ไตรมาส 4 และมีเม็ดเงินจากภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ส่งเข้ารัฐภายในเดือน ธ.ค.นี้ ไม่ต้องเหลื่อมไปต้นปี 2561 เนื่องจากสรรพากรกำหนดให้ผู้ประกอบการต้องนำส่ง VAT ภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันสิ้นเดือน”

ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ยังคงเป็นไปแบบเดิม คือ ให้หักลดหย่อนรายจ่ายจากการซื้อสินค้า บริการ ร้านอาหาร ตั๋วเครื่องบินในประเทศไม่รวมแพ็กเกจทัวร์ ได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท โดยต้องนำใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบที่ร้านค้าออกให้มาใช้แสดง นอกจากนี้สินค้าและบริการที่นำมาลดหย่อนภาษีได้ จะต้องซื้อจากร้านค้าที่จดทะเบียน VAT กับกรมสรรพากร ไม่รวมสินค้าจำพวกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (สุรา เบียร์ และไวน์) บุหรี่ ทองคำแท่ง (ส่วนทองรูปพรรณลดหย่อนได้เฉพาะค่ากำเหน็จ) การชำระค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์ ซื้อแพ็กเกจทัวร์ ซื้อประกันชีวิต ประกันภัยรถยนต์ ซื้อบัตรของขวัญของห้างสรรพสินค้า ฯลฯ

ปลุกจับจ่าย-GDP โตเพิ่ม

แหล่งข่าวกล่าวว่า หากระยะเวลาดำเนินมาตรการใกล้เคียงปีที่แล้ว คาดว่าจะกระตุ้น GDP ราว 0.05% ที่จะได้มากกว่านั้นคือ การปลุกบรรยากาศจับจ่ายใช้สอยให้คึกคักขึ้น เป็นแรงหนุนเศรษฐกิจในระยะต่อไป

นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า มาตรการภาษีช้อปช่วยชาติ หากนำมาใช้อีกจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น

สำหรับการดำเนินมาตรการในปี 2559 กรมสรรพากรมีรายการลดหย่อนภาษีเป็นมาตรการเพิ่มเติมให้แก่ประชาชนหลายมาตรการ โดยรวมผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 1 ราย จะมีสิทธิ์หักลดหย่อนทุกมาตรการรวมกันได้ถึง 75,000 บาท ในภาพรวมทำให้กรมสูญเสียรายได้กว่า 40,000 ล้านบาท แต่ไม่สามารถแยกเฉพาะผลจากมาตรการช้อปช่วยชาติได้ เช่นเดียวกับการจะประเมินว่าจะเกิดการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นแค่ไหน เพราะบางคนอาจจ่ายมากกว่าเพดานสูงสุดที่ให้หักลดหย่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีมาตรการช้อปช่วยชาติปลายปี 2559 การจัดเก็บภาษี VAT เดือน ม.ค. 2560 อยู่ที่ 245,244 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ม.ค. 2559 รวม 3,688 ล้านบาท หรือ 1.5% ขณะที่เดือน ธ.ค. 2559 เก็บภาษี VAT ได้ 61,589 ล้านบาท ต่ำกว่าเดือน ธ.ค. 2558 ราว 644 ล้านบาท หรือ 1%

ห่วงติดนิสัยรอช็อปช่วงปลายปี

ขณะที่นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวว่า มาตรการช้อปช่วยชาติจะออกมาเป็นอย่างไร ต้องรอข้อสรุป น่าจะได้คำตอบเร็ว ๆ นี้ แต่หากทำจะมีข้อดี คือ ช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย

“ถ้าทำก็กระตุ้นให้เกิดความกระชุ่มกระชวยขึ้นว่าเราจะต้องเดินก้าวต่อกันแล้ว แต่ข้อเสียคือกลายเป็นว่าทำทุกปี คนบอกว่าถ้าจะซื้อของ รอปลายปีค่อยซื้อ นี่คือสิ่งที่เรากังวล ไม่อยากให้เป็นแพตเทิร์น”

ทั้งนี้ นายอภิศักดิ์กล่าวว่า เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีฝากให้มาคิด ไม่ได้บอกว่าสั่ง หากไม่ทำก็ต้องมีคำอธิบาย

รมว.คลังชี้ ศก.ยังโตไม่ติดลมบน

รมว.คลังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้มาตรการด้านเศรษฐกิจที่รัฐผลักดันช่วงที่ผ่านมากำลังออกผล เศรษฐกิจดีขึ้นต่อเนื่อง ปีนี้คาดการณ์ว่าจะโตได้ 3.8-3.9% โดยเฉพาะไตรมาส 3 มีโอกาสโตได้ถึง 4% แต่ยังไม่น่าพอใจ เพราะทั้งปียังไม่เติบโตได้ถึงตามศักยภาพที่ควรจะเติบโตได้ 4-5% ดังนั้นหากมีมาตรการกระตุ้นให้เติบโตได้เพิ่มขึ้น

“ผมเคยบอกว่า เราต้องการให้เศรษฐกิจโตเต็มศักยภาพ จะช่วยทำให้เกิดความมั่นคง เหมือนที่เราปล่อยให้ว่าวไปติดลมบน พอติดลมบนแล้วจะลอยอยู่ได้ไปเรื่อย ๆ เกิดความยั่งยืน แต่ถ้าไม่โตเต็มศักยภาพ ก็เหมือนอยู่ระหว่างทางกำลังจะขึ้นสู่ลมบน ต้องคอยแต่ง ปรับ ระดับที่ติดลมบน คือ ถ้าไป 4% ไปเรื่อย ๆ จนแตะ 5% แบบนั้นจะสบายใจ”

ค้าปลีกเฮ ! ยอดขายโต 5-10%

ด้านความเคลื่อนไหวของภาคธุรกิจ นางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บจ.เดอะมอลล์ กรุ๊ป กล่าวว่า มาตรการช้อปช่วยชาติปีนี้จะกระตุ้นกำลังซื้อปลายปีได้ เพราะ 10 เดือนที่ผ่านมา กำลังซื้อในประเทศค่อนข้างชะลอตัว และคนไทยส่วนหนึ่งเดินทางและไปช็อปต่างประเทศ โชคดีที่มีแรงซื้อจากนักท่องเที่ยวเข้ามาหนุนให้ตลาดเดินต่อได้

ล่าสุดเดอะมอลล์ได้ร่วมมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดตัวระบบช็อปปิ้งไร้เงินสด ตั้งแต่ 1 ธ.ค.เป็นต้นไป พร้อมบริการ Smart Tax Kiosk อำนวยความสะดวกในการออก VAT refund ให้นักท่องเที่ยว และใบกำกับภาษีของลูกค้าชาวไทยด้วยตัวเอง รองรับโครงการช้อปช่วยชาติครั้งนี้ด้วย

นายชำนาญ เมธปรีชากุล รองประธานกรรมการบริหาร บจ.เดอะมอลล์ กรุ๊ป กล่าวเพิ่มเติมว่า หาการัฐขยายเวลาช้อปช่วยชาติมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้ผู้บริโภคมีเวลาจับจ่ายมากขึ้น จะกระตุ้นยอดขายให้เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ได้ไม่ต่ำกว่า 5-10% ส่วนแคมเปญช้อปช่วยชาติในปีที่ผ่านมา กระตุ้นยอดขายเติบโต 5% เนื่องจากมู้ดจับจ่ายช่วงดังกล่าวไม่ดีนัก

แอมเวย์พร้อมลุยแคมเปญ

เช่นเดียวกับมุมมองของนายกิจธวัช ฤทธิราวี กรรมการผู้จัดการ บจ.แอมเวย์ (ประเทศไทย) ที่ชี้ว่า หากมาตรการช้อปช่วยชาติออกมาจะทำให้ผู้ประกอบการหลาย ๆ ธุรกิจได้รับอานิสงส์ ทั้งค้าปลีก สินค้าและบริการต่าง ๆ รวมถึงธุรกิจขายตรงด้วย บริษัทพร้อมจะออกแคมเปญสนับสนุนทันที เพราะ 2 ปีที่ผ่านมา แอมเวย์มีแคมเปญสนับสนุนมาตรฐานช้อปช่วยชาติต่อเนื่อง

“ปีก่อนเฉพาะเดือน ธ.ค. ยอดของแอมเวย์เติบโตกว่าช่วงเวลาปกติถึง 15-20%”

หวั่นผลเสียดึงกำลังซื้อในอนาคต

ส่วนนางพิมลวรรณ มหัจฉริยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า ประเมินผลมาตรการช้อปช่วยชาติปีนี้จะทำให้มีเม็ดเงินจากการจับจ่ายใช้สอย 12,000 ล้านบาท เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ใกล้เคียงกับปี 2559 บนสมมุติฐานเดียวกันกับปีก่อน คือ ใช้ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15,000 บาท/คน ดังนั้นผลบวกไม่น่าแตกต่างจากเดิม แม้จะขยายระยะเวลายาวนานขึ้น เพราะไม่ได้ขยายวงเงินลดหย่อนเพิ่มขึ้น

นายสมประวิณ มันประเสริฐ ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและหัวหน้าทีมวิจัยเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันมาตรการช้อปช่วยชาติจำเป็นน้อยลง ดังนั้น ผลกระตุ้นเศรษฐกิจอาจจะบวกแค่ระยะสั้น เพราะแค่ดึงกำลังซื้อในอนาคตมาใช้ น่าจะปล่อยให้เศรษฐกิจเป็นไปตามวัฏจักรมากกว่าเร่ง

นางสาวสลิลลา สีหพันธุ์ รองประธานกรรมการฝ่ายกิจการบรรษัท เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า การมีนโยบายทางเศรษฐกิจอย่างมาตรการช้อปช่วยชาติในช่วงปลายปีเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคประชาชน ส่งผลดีกับทุกภาคส่วน เทสโก้ โลตัส เห็นด้วยกับนโยบายช้อปช่วยชาติที่จะออกมากระตุ้นเศรษฐกิจให้ช่วงสุดท้ายปลายปีดีขึ้น