บอร์ด MAJOR อนุมัติขายหุ้น SF ให้ “เซ็นทรัลพัฒนา” มูลค่า 7.7 พันล้าน

บอร์ด MAJOR มีมติอนุมัติข้อตกลงขายหุ้น SF ให้ “เซ็นทรัลพัฒนา” จำนวน 647.15 ล้านหุ้น สัดส่วน 30.36% ราคาหุ้นละ 12 บาท มูลค่ารวม 7,766 ล้านบาท ทำ Big Lot ผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ รอมติผู้ถือหุ้นอนุมัติช่วงวันประชุมที่ 27 ส.ค. 64 คาดโอนหุ้นจะเป็นวันที่ 30 ส.ค. 64

วันที่ 5 กรกฎาคม 2564 บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทวันนี้ได้มีมติอนุมัติเรื่องสำคัญคือ

1.มีมติอนุมัติการแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ ในการเข้าทำรายการโอนขายหุ้นสามัญที่บริษัทถือหุ้นอยู่ในบริษัท สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SF (ธุรกิจพัฒนาและบริหารศูนย์การค้า โดยจะเน้นการพัฒนาประเภทศูนย์การค้าแบบเปิด)

2.มีมติอนุมัติการเข้าทำบันทึกข้อตกลงเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้น SF เพื่อการขายหุ้นสามัญที่บริษัทถืออยู่ใน SF จำนวน 647,158 471 หุ้น หรือคิดเป็น 30.36% ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดให้กับบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ซึ่งไม่ใช่บุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัท ในราคาหุ้นละ 12 บาท รวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 7,765,901,652 บาท ซึ่งเป็นการซื้อขายแบบ Big Lot ผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ

โดยบริษัทจะเข้าทำรายการดังกล่าวก็ต่อเมื่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท ได้มีมติอนุมัติการเข้าทำรายการดังกล่าว ได้รับคำยินยอมจากบุคคลหรือหน่วยงานใด ๆ ให้ขายหุ้นที่ซื้อขาย (ถ้ามี) คู่สัญญาได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นและผู้ซื้อพอใจกับผลการตรวจสอบสถานะของ SF (Due Diligence) เงื่อนไขบังคับก่อนอื่น ๆ ที่จะระบุไว้ในสัญญาซื้อขายหุ้นได้มีการปฏิบัติเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้มีมติอนุมัติกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564 ในวันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม 2564 เวลา 10.00 น. ณ โรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน (โรงที่ 14) ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการเข้าร่วมประชุมวิสํามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564 ในวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 (Record Date)

โดยวันทำสัญญาซื้อขายหุ้น ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ทำบันทึกข้อตกลงนี้

สำหรับ บริษัท สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SF เป็นผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาและบริหารศูนย์การค้า โดยจะเน้นการพัฒนาประเภทศูนย์การค้าแบบเปิด (Open-Air Shopping Center) ก่อตั้งขึ้นในปี 2537 ปัจจุบันมีโครงการที่ดำเนินการอยู่ทั้งหมด จำนวน 18 โครงการ โดยมีพื้นที่ให้เช่ารวม 430,628 ตารางเมตร

1.ศูนย์การค้าชุมชน (Neighborhood Center) จำนวน 7 โครงการคือ 1.มาร์เก็ตเพลส บางบอน 2.มาร์เก็ตเพลส ประชาอุทิศ 3.มาร์เก็ตเพลส สุขาภิบาล 3 4.มาร์เก็ตเพลส ทองหล่อ 5.มาร์เก็ตเพลส นางลิ้นจี่ 6.มาร์เก็ตเพลส นวมินทร์ (สุขาภิบาล 1) และ 7.มาร์เก็ตเพลส ดุสิต

2.ศูนย์ไลฟ์สไตล์ (Lifestyle Center) จำนวน 6 โครงการคือ 1.เจ อเวนิว ทองหล่อ 2.ลา วิลล่า อารีย์ 3.ดิ อเวนิว แจ้งวัฒนะ 4.พัทยา อเวนิว 5.ดิ อเวนิว รัชโยธิน 6.นวมินทร์ ซิตี้ อเวนิว

3.ศูนย์รวมสินค้าเฉพาะอย่าง (Power Center) จำนวน 2 โครงการคือ 1.เพชรเกษม พาวเวอร์ เซ็นเตอร์ 2.เอกมัย พาวเวอร์ เซ็นเตอร์

4.ร้านค้าปลีก (Stand-Alone Retail Store) จำนวน 1 โครงการที่เหม่งจ๋าย

5.ศูนย์บันเทิง (Entertainment Center) จำนวน 1 โครงการคือ เอสพลานาด รัชดาภิเษก

6.ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ จำนวน 1 โครงการคือ เมกาบางนา

โดยบริษัทจะได้รับชำระค่าตอบแทนทั้งจำนวนภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดเมื่อมีการโอนหุ้นตาม Big Lot ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันที่ 30 สิงหาคม 2564

ทั้งนี้บริษัทคาดว่าการเข้าทำธุรกรรมจะทำให้บริษัทได้รับผลประโยชน์คือ 1.รับรู้กำไรจากการขายหุ้น SF หลังหักภาษีเป็นจำนวนประมาณ 2,824.0 ล้านบาท 2.ผลการดำเนินงานของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอันเนื่องมาจากการชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมบางส่วนด้วยเงินที่ได้รับจากการขายหุ้นในครั้งนี้ส่งผลให้ภาระดอกเบี้ยจ่ายลดลง 3.อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลงจากการชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมบางส่วน ส่งผลให้บริษัทมีสภาพคล่องทางการเงินเพิ่มขึ้นเพื่อสนับสนุนแผนการขยายธุรกิจ รวมถึงโอกาสทางธุรกิจต่าง ๆ ในอนาคต

โดยแผนการใช้เงินที่ได้รับจากการขายคือ 1.ทยอยชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมตามสัญญาประมาณ 5,300 ล้านบาท 2.ใช้เป็นเงินทุนสำหรับแผนการขยายธุรกิจที่วางไว้ประมาณ 265 ล้านบาท 3.ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนประมาณ 2,200 ล้านบาท