กองทุนหุ้นไทย ครึ่งปีแรกเงินไหลออก 1.4 หมื่นล้าน-มูลค่าทรัพย์สินลดลง 2.9% 

เงินบาท-SET-ตลาดหุ้นไทย

“มอร์นิ่งสตาร์” เปิดข้อมูลกองทุนรวมไทยครึ่งแรกปี’64 มูลค่าทรัพย์สินรวมเติบโต 4.8% แตะระดับ 5.3 ล้านล้านบาท เฉพาะกองเปิดแตะ 4.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.7% กลับไปใกล้ก่อนระบาดโควิดที่อยู่ 4.3 ล้านล้านบาท ฟากเงินไหลเข้าสุทธิรวม 9.3 หมื่นล้านบาท มูลค่าทรัพย์สินกองทุนหุ้นพุ่งแตะใกล้เคียงกองทุนตราสารหนี้ คาดปีนี้กองทุนหุ้นเป็นสัดส่วนหลักของอุตสาหกรรมฯ ด้าน “กองทุนหุ้นไทย” มูลค่าทรัพย์สินรวม 2.3 แสนล้านบาท ลดลง 2.9% จากไตรมาสแรก ครึ่งปีแรกเงินไหลออกราว 1.4 หมื่นล้านบาท

วันที่ 12 กรกฎาคม 2564 นางสาวชญานี จึงมานนท์ นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า 6 เดือนแรกปีนี้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุนรวมไทย อยู่ที่ราว 5.3 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.8% จากสิ้นปี’63 โดยกองทุนรวมไทย เฉพาะกองทุนเปิด (ไม่รวมกองทุนปิด, ETF, REIT, Infrastructure fund) มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 4.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.7% จากไตรมาสแรก หรือ 5.4% จากสิ้นปี’63 จากการเพิ่มขึ้นนี้ทำให้มูลค่าทรัพย์สินเข้าใกล้ระดับก่อนการระบาดของโควิด-19 ที่ 4.3 ล้านล้านบาท หรือต่างกันราว 1 แสนล้านบาท 

โดยในช่วงรอบครึ่งปีมีแรกเงินไหลเข้าสุทธิ 9.3 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเงินไหลเข้ากองทุนตราสารหนี้และกองทุนตราสารทุน

โดยกองทุนรวมตราสารทุนมีมูลค่าทรัพย์สินรวม 1.5 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.2% จากไตรมาสแรก รอบครึ่งปีแรกเงินไหลเข้าสุทธิราว 1.6 แสนล้านบาท กองทุนรวมตราสารหนี้มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.6 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.4% จากไตรมาสแรก รอบครึ่งปีแรกเป็นเงินไหลเข้าสุทธิ 3.6 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้จากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของมูลค่าทรัพย์สินกองทุนตราสารทุน ทำให้มีมูลค่าใกล้เคียงกับกองทุนรวมตราสารหนี้ หรือมีส่วนต่างราว 6 หมื่นล้านบาท ประกอบกับผู้ลงทุนยังให้ความสนใจการลงทุนตราสารทุน โดยเฉพาะกองทุนหุ้นต่างประเทศ อาจทำให้กองทุนตราสารทุนเป็นสัดส่วนหลักของอุตสาหกรรมกองทุนรวมไทยได้ภายในปีนี้

กองทุนหุ้นไทย (ไม่รวม LTF, RMF, SSF) มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 2.3 แสนล้านบาท ลดลง 2.9% จากไตรมาสแรก แต่ยังสูงกว่าสิ้นปี’63 อยู่ประมาณ 2% มีเงินไหลออกที่ 1,500 ล้านบาท หากมองย้อนกลับไปไตรมาสแรกที่มีเงินไหลออกสุทธิ 1.3 หมื่นล้านบาท จะพบว่าเป็นการไหลออกต่อเนื่อง รวมครึ่งปีแรกเป็นเงินไหลออกสุทธิรวมราว 1.4 หมื่นล้านบาท

กองทุนเพื่อการออม มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 2.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.7% จากสิ้นปี’63 หรือเพิ่มขึ้น 5.9% จากไตรมาสก่อนหน้า มีเม็ดเงินไหลเข้าเร่งตัวขึ้นกว่าไตรมาสแรกเล็กน้อยด้วยมูลค่ารวม 1,300 ล้านบาท รวมครึ่งปีแรกมีเงินไหลเข้า 2.2 พันล้านบาท

กองทุน LTF มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 3.6 แสนล้านบาท สูงกว่าสิ้นปี ’63 เล็กน้อย แต่ลดลงจากไตรมาสแรก 3.4% โดยในไตรมาส 2/64 มีเงินไหลออกสุทธิ 4,200 ล้านบาท กองทุน RMF มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวม 3.5 แสนล้านบาท สูงกว่าสิ้นปีที่แล้ว 7.7%  

กองทุนรวมต่างประเทศ (ไม่รวม Term Fund) มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิสูงขึ้นทะลุระดับ 1 ล้านล้านบาทได้ในช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา มีเงินไหลเข้าสุทธิ 4.2 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 2/64 หรือสะสม 1.9 แสนล้านบาท ในรอบครึ่งแรกของปี’64 ในจำนวนนี้เป็นเงินไหลเข้ากองทุนตราสารทุนถึง 1.88 แสนล้านบาท

กองทุนรวมตราสารตลาดเงินมีมูลค่าทรัพย์สินลดลง 6% มาอยู่ที่ 6.6 แสนล้านบาท จากเงินไหลออกสุทธิ 3.9 หมื่นล้านบาท ในไตรมาสที่ผ่านมา รวมเงินไหลออกสุทธิครึ่งปีแรก 9.4 หมื่นล้านบาท โดยเป็นการสะท้อนเม็ดเงินที่ไหลกลับเข้าลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงสูงกว่าหลังจากมีเงินไหลเข้าในช่วงครึ่งปีแรกของปี’ 64 ที่มีเงินไหลเข้ากองทุนตราสารตลาดเงินสูงถึง 1.7 แสนล้านบาท

โดยกองทุนกลุ่ม Commodities มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 3.1 หมื่นล้านบาท ทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า โดยมีเงินไหลออกสุทธิ 1.9 พันล้านบาทในไตรมาสล่าสุด สะสมครึ่งปีอยู่ที่ 3.4 พันล้านบาท ในจำนวนนี้กว่าครึ่งเป็นเงินไหลออกจากกองทุนน้ำมันจากที่ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นมาที่ระดับสูงสุดตั้งแต่ปี’61 

ด้านราคาทองคำยังมีความผันผวนจากอัตราเงินเฟ้อ โดยมีการปรับขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 1,900 ดอลลาร์ ในช่วงปลายเดือน พ.ค. จึงทำให้มีแรงขายกองทุนทองคำราว 1 พันล้านบาทในช่วงดังกล่าว