ผ่อนชำระเบี้ยประกัน 0% นาน 3 เดือน ลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิต

เมืองไทยประกันชีวิต จับมือ ธนาคารพันธมิตร “UOB-กสิกร-กรุงศรีฯ” มอบโปรโมชั่นผ่อนชำระค่าเบี้ยประกันภัย 0% นาน 3 เดือน ผ่านระบบ EDC Pooling แบ่งเบาภาระลูกค้า ช่วงสถานการณ์โควิด-19

วันที่ 14 กรกฎาคม 2564 นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้จับมือพันธมิตรธนาคารเพิ่มอีก 1 ธนาคาร คือ ธนาคารยูโอบี (UOB) สำหรับการให้บริการลูกค้าชำระเบี้ยประกันชีวิตผ่านนวัตกรรมระบบ EDC Pooling จากเดิมที่มีการจับมือกับธนาคารกสิกรไทยและธนาคารกรุงศรีอยุธยา โดยลูกค้าสามารถชำระเงินค่าเบี้ยประกันชีวิตแบบผ่อนชำระ 0% นาน 3 เดือน ผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมเป็นพันธมิตรด้วยเครื่องรูดบัตรเครดิต EDC เพียงเครื่องเดียว แทนรูปแบบเดิมที่ต้องมีเครื่องรูดบัตร EDC โดยเฉพาะสำหรับบัตรเครดิตของแต่ละสถาบันการเงิน

ทั้งนี้ การให้บริการดังกล่าวนั้น บริษัทมุ่งหวังที่จะอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่ใช้บริการ พร้อมทั้งช่วยแบ่งเบาภาระสำหรับการชำระค่าเบี้ยประกันภัยแก่ลูกค้า ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ยังมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ซึ่งเปิดให้บริการ ณ ศูนย์บริการลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิตทั่วประเทศ โดยให้บริการตั้งแต่วันนี้-28 ธันวาคม 2564 นอกจากนี้ บริษัท ยังมีแผนที่จะมีพันธมิตรธนาคารเข้าร่วมให้บริการ EDC Pooling เพิ่มขึ้น ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารทหารไทยธนชาต

การเปิดให้บริการ EDC Pooling ยังเป็นการช่วยลดต้นทุนการบริหารจัดการด้านการชำระเงินของบริษัทให้มีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตามนโยบายของบริษัทที่ต้องการลดจำนวนเครื่องรูดบัตร ที่เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เกินความจำเป็น ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการดำเนินธุรกิจที่ควบคู่กับการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

“เรามั่นใจว่าบริการ EDC Pooling ที่เมืองไทยประกันชีวิตได้ร่วมกับธนาคารชั้นนำ จะสามารถช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่ใช้บริการชำระเบี้ยประกันภัยได้เป็นอย่างดี และแม้ว่าการดำเนินธุรกิจในปีนี้ยังต้องเผชิญกับความท้าทายที่หลากหลาย แต่เรายังคงมุ่งมั่นที่จะคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการให้ครบในทุกด้าน เพื่อตอกย้ำนโยบาย MTL Trusted Lifetime Partner รวมถึงเชื่อมต่อกับเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ (Ecosystem Partner) ดูแลลูกค้าได้อย่างครอบคลุม และในอนาคตเรายังเตรียมขยายบริการดังกล่าวไปยังพื้นที่ทั่วประเทศ” นายสาระกล่าว