ธนารักษ์จ่อหั่นค่าเช่าที่ราชพัสดุ อุ้มเอกชนต่อ-AOT รับอานิสงส์

ธนารักษ์เปิดทางเอกชนขอลดค่าเช่าบรรเทาผลกระทบโควิด-19 แย้มอุ้มเต็มที่เล็ง “หั่นค่าเช่าเหลือ 25%” ที่ราชพัสดุเชิงพาณิชย์ ชี้ช่วยเหลือผู้ประกอบการอยู่รอดแลกรักษาการจ้างงาน รับกระทบรายได้เข้ารัฐกว่า 1,000 ล้านบาท เร่งหาทางชดเชย วงในเผย “AOT-วิทยุการบิน” รับอานิสงส์

นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จากที่กรมได้ออกมาตรการเลื่อนจ่ายค่าเช่าที่ราชพัสดุเชิงพาณิชย์ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จนถึงสิ้นปี 2564 แต่ยังมีผู้ประกอบการบางรายที่แสดงความประสงค์ที่จะจ่ายค่าเช่า แต่ขอให้กรมลดลงเหลือ 50% และไม่คิดค่าปรับ โดยที่ผ่านมา กรมได้ช่วยเหลือไปแล้วกว่า 10 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการโรงแรม และเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว

อย่างไรก็ดี ขณะนี้สถานการณ์โควิดยังรุนแรงอยู่ ซึ่งคาดว่าหลังจากครบกำหนดระยะเวลาเลื่อนจ่ายค่าเช่าที่ ผู้ประกอบการก็จะเสนอขอลดค่าเช่าอีก ทั้งนี้ กรมพร้อมที่จะพิจารณาช่วยเหลือ โดยอาจจะลดค่าเช่าให้เหลือเพียง 25% หรือยกเว้นให้

“ก่อนหน้านี้เราลดค่าเช่าเหลือ 50% เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการกว่า 10 รายที่เสนอเรื่องมา ส่วนผู้ประกอบการที่เหลือก็เลื่อนจ่ายค่าเช่าที่ตามมาตรการจนถึงสิ้นปี 2564 นี้ อย่างไรก็ดี คาดว่าหลังจากจบปี 2564 จะมีผู้ประกอบการที่ได้รับความเดือดร้อนไม่มีรายได้ ทยอยส่งหนังสือมาขอลดค่าเช่าอีก อาจจะเหลือ 25% หรือขอยกเว้นไปเลย ซึ่งเราก็จะพิจารณาช่วยเพราะเขาลำบากจริง ๆ แต่แลกเงื่อนไข ขอให้คงการจ้างงานไว้ได้มากที่สุด เพราะเราไม่อยากให้คนตกงาน”

สำหรับการพิจารณาลดค่าเช่าเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการนั้น ตามระเบียบกฎหมายระบุว่าสามารถทำได้ตามความเหมาะสม กรมจะพิจารณาช่วยเหลือผู้ประกอบการอ้างอิงตามผลประกอบการของธุรกิจในช่วงนี้เป็นหลัก ซึ่งแน่นอนว่า ผู้ประกอบการน่าจะมีรายได้ลดลงเช่นเดียวกัน ดังนั้น เพื่อเป็นการประคองการจ้างงาน หากผู้ประกอบการมีหนังสือเสนอขอลดค่าเช่าที่ หรือยกเว้นค่าเช่า กรมก็พร้อมจะช่วยเหลือผู้ประกอบการทุกกลุ่ม โดยก่อนหน้านี้กรมก็ได้ประกาศนโยบายการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาผลกระทบโควิด-19 ให้ผู้ประกอบการได้รับทราบแล้ว

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเช่าที่ราชพัสดุเชิงพาณิชย์ ประมาณ 1,000 ราย โดยในแต่ละปีกรมมีรายได้เฉลี่ยจากส่วนดังกล่าวหลักพันล้านบาท ส่วนประชาชนที่เช่าที่เชิงเกษตรและที่อยู่อาศัยนั้น กรมยกเว้นค่าเช่าให้ถึงสิ้นปี 2564 อยู่แล้ว โดยช่วยประชาชนได้กว่า 200,000 ราย ส่วนจะขยายระยะเวลาไปถึงปี 2565 หรือไม่นั้น จะต้องติดตามสถานการณ์โควิดในช่วงที่มาตรการครบอายุก่อนด้วย

“กรมมีรายได้เฉลี่ยในแต่ละปีจากการเก็บค่าเช่าที่เชิงเกษตรและที่อยู่อาศัย ประมาณ 500 ล้านบาท ดังนั้น เมื่อมีการออกมาตรการลดและเลื่อนชำระค่าเช่าที่ราชพัสดุเชิงเกษตรและที่อยู่อาศัย รวมทั้งค่าเช่าที่เชิงพาณิชย์ จะกระทบการจัดเก็บรายได้ของกรมด้วย เนื่องจากการเก็บค่าเช่าที่ราชพัสดุเป็นรายได้หลักในการเก็บรายได้ของกรม อย่างไรก็ดี ยังคาดว่าจะสามารถเก็บรายได้เกินเป้าหมายเอกสารงบประมาณปี 2564 ที่กำหนดไว้ 7,600 ล้านบาท”

อธิบดีกรมธนารักษ์กล่าวด้วยว่า กรมจะมีการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ส่วนอื่นชดเชยแทน อาทิ การจัดระเบียบที่ราชพัสดุที่ผิดประเภท เช่น ที่ราชพัสดุที่เช่าเป็นที่อยู่อาศัยแต่กลับไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ เป็นต้น รวมทั้งจะเดินหน้าเปิดประมูลที่ราชพัสดุรกร้างที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ เพื่อให้เอกชนเข้ามาเช่าได้นานถึง 30 ปี

โดยเร็ว ๆ นี้กรมจะเปิดประมูลสนามกอล์ฟบางพระ จังหวัดชลบุรี และก่อนหน้านี้กรมก็ได้เปิดประมูลที่ราชพัสดุที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ในจังหวัดเชียงราย ทำให้มีรายได้เข้ารัฐกว่า 30 ล้านบาท รวมทั้งจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเดินหน้าโครงการท่าเรือสงขลา เป็นต้น

ด้านแหล่งข่าวจากกรมธนารักษ์กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรมได้ลดค่าเช่าที่เชิงพาณิชย์เหลือ 50% ช่วยเหลือผู้ประกอบการรายใหญ่และรายเล็กกว่า 10 ราย อาทิ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) บมจ.วิทยุการบินแห่งประเทศไทยท่าเรือภูเก็ต รวมถึงธุรกิจทั้งขนาดเล็กและขนาดกลาง

อย่างไรก็ดี ผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ยังรุนแรงอยู่ คาดว่ากรมจะต้องลดค่าเช่าช่วยผู้ประกอบการต่อเนื่อง ซึ่งจะลดลงมาต่ำกว่า 50% อีก เพราะผู้ประกอบการไม่มีรายได้เลย

อย่าง บมจ.ท่าอากาศยานไทยช่วงนี้ไม่มีรายได้กรมก็ต้องลดให้อยู่แล้ว แต่ก็ต้องรอดูว่าผู้ประกอบการจะส่งหนังสือขอความช่วยเหลือมาที่กรมหรือไม่ หากมีหนังสือส่งมากรมก็พร้อมจะช่วยเหลือ