มูลค่าซื้อขายคริปโตฯ เเตะ 3.2 หมื่นล้านบาท รายย่อยเทรดสูงสุด

ก.ล.ต. เผยตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลสัปดาห์นี้ มูลค่าทั่วโลกพุ่งเเตะ 2.34 ล้านล้านดอลลาร์ ซื้อขายต่อวันที่ 134.68 พันล้านดอลลาร์ ผลตอบแทน ‘อีเธอร์เรียม’ ยังสูงสุดในแอสเสทคลาส +484.23% มูลค่าซื้อขายคริปโตฯ สัปดาห์ที่ผ่านมาแตะ 3.2 หมื่นล้านบาท จำนวน 2.61 แสนบัญชี ‘รายย่อย’ เทรดสูงสุด

วันที่ 12 กันยายน 2564 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงานภาวะตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล พบว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก มีมูลค่าตามมาร์เก็ตแคป (Market cap.) ประมาณ 2.34  ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ  เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.09 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยกว่า 41.38% มาจากบิตคอยน์ (Bitcoin) และมีมูลค่าการซื้อขายต่อวันอยู่ที่ 136.68 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 96.84 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ที่มา: coinmarketcap 6 ก.ย.64)

ทั้งนี้ พบว่าสินทรัพย์ดิจิทัลให้ผลตอบแทนสูงเมื่อเทียบกับหลักทรัพย์ทองคำและน้ำมัน โดยมูลค่าอีเธอร์เรียม (Ethereum) ในสัปดาห์นี้ยังให้ผลตอบแทนสูงที่สุดในแอสเสทคลาส +484.23% เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ +380.37% ตามมาด้วย XRP อยู่ที่ 441.53% เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่  +357.58%  สำหรับบิตคอยน์ (Bitcoin) ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ +77.55%

ขณะที่ผลตอบแทนน้ำมัน (Oil) อยู่ที่ +42.81%  ส่วนทองคำ (Gold) อยู่ที่ -3.97% โดยราคาสินทรัพย์ดิจิทัลก็ยังมีความเสี่ยงและความผันผวนค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับราคาหุ้นไทย (SET INDEX) ที่ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ +12.72% เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 9.16% (ที่มา : Bloomberg 6 ก.ย.64)

ทั้งนี้มูลค่าการซื้อขายเริ่มกลับมาสูงขึ้นตามแนวโน้มราคาของตลาดสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้น อย่างไรก็ดีพบว่าเหรียญสกุล บิตคอยน์ (Bitcoin) และ อีเธอร์เรียม (Ethereum) ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าเหรียญสกุลอื่น ๆ

ดังนั้นมูลค่าการซื้อขายของเหรียญต่าง ๆ เริ่มมีการกระจายมากขึ้นจากการเติบโตของเหรียญสกุลอื่น ๆ  โดยในสัปดาห์นี้ของเดือนก.ย.มีมูลค่าซื้อขายอยู่ที่ 3.2 หมื่นล้านบาท และพบว่าตั้งแต่ต้นปีมูลค่าซื้อขายสินทรัพย์ค่อนข้างกระจายตัว

อย่างไรก็ตามจำนวนบัญชีซื้อขายของรายย่อยในประเทศมีการเปลี่ยนแปลงที่สอดคล้องกับทิศทางของราคาตลาด โดยพบว่าหลังจากช่วงที่มีบัญชีการซื้อขายสูงสุดในเดือน พ.ค. จำนวนบัญชีมีการปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตามเริ่มเห็นจำนวนบัญชีเพิ่มขึ้นในเดือน ส.ค.ตามภาวะของตลาด (ข้อมูล ณ 6 ก.ย.64)

โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่ามีมูลค่าซื้อขายอยู่ที่ 2.61 แสนบัญชี ขณะที่มูลค่าซื้อขายส่วนใหญ่มาจากการซื้อขายของนักลงทุนรายย่อยในประเทศ โดยมีมูลค่าซื้อขายในสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ 2.9 หมื่นล้านบาท

ส่วนนิติบุคคลต่างชาติยังเป็นกลุ่มที่มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อบัญชีสูงที่สุด มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยอยู่ที่ 1.70 แสนล้านบาท โดยในช่วงเดือนก.ย.นักลงทุนรายย่อยในประเทศมียอดขายสุทธิ  โดยเป็นเดือนแรกที่มียอดขายสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน   ขณะที่นิติบุคคลต่างชาติมียอดซื้อสุทธิเพิ่มขึ้น 6,000 ล้านบาท  (ข้อมูล 1 พ.ย. 63 – 6 ก.ย. 64)