ราคาน้ำมันดิบพุ่งแตะระดับสูงสุดรอบ 2 เดือน ความกังวลต่ออุปทานยังคงต่ำ

น้ำมันดิบ-แท่นขุดเจาะ

ราคาน้ำมันดิบพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบสองเดือน จากความกังวลต่ออุปทานที่ยังคงต่ำ ขณะที่สต๊อกน้ำมันดิบลดลง

ปัจจัยบวก ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 ก.ย. 64 ปรับตัวลดลง 3.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 414 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ ต.ค. 61 ในขณะที่กำลังการผลิตของโรงกลั่นในสหรัฐ ปรับเพิ่ม 969,000 บาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็น 5.4% ทำให้กำลังการผลิตโดนรวมแตะระดับ 87.5%

ปัจจัยบวก ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลกในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากปัจจัยหลายประการ รวมถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเอเชีย ที่เริ่มฟื้นตัวหลังเกิดโรคระบาด ในขณะที่ก๊าซคงคลังอยู่ในระดับต่ำและอุปทานก๊าซที่ตึงตัวกว่าปกติจากรัสเซีย

ปัจจัยบวก สมาชิกบางส่วนของกลุ่มโอเปกและพันธมิตร (OPEC+) ยังคงประสบปัญหาในการเพิ่มกำลังการผลิต เนื่องจากความล่าช้าในการลงทุนและการดำเนินงานซ่อมบำรุงในช่วงที่มีการระบาดหนักของโควิด-19 นอกจากนี้รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของอิรักยังกล่าวอีกว่า กลุ่มโอเปกและพันธมิตร พยายามที่จะคงราคาน้ำมันดิบไว้ที่ระดับ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในขณะที่เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัว โดยกลุ่มจะจัดประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 4 ต.ค. 64

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์น้ำมันเบนซินจากทางตะวันออกกลางและแอฟริกาเริ่มฟื้นตัวขึ้น อย่างไรก็ตามราคายังถูกกดดันจากน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐ ที่ปรับเพิ่มขึ้น 3.47 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากความต้องการน้ำมันดีเซลที่เพิ่มสูงขึ้นจากสิงคโปร์และออสเตรเลียที่จะเริ่มเปิดประเทศ เมื่อประชากรได้รับวัคซีนกว่า 70% ในขณะที่อุปทานในภูมิภาคยังค่อนข้างจำกัด

ที่มา ไทยออยล์