เงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่า รับเปิดประเทศ จับตาปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า

เงินบาท-หุ้นไทย

เงินบาทพลิกแข็งค่ารับแนวทางเปิดประเทศ ขณะที่หุ้นไทยย่อตัวลงช่วงปลายสัปดาห์ก่อนประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน(บจ.) จับตาปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า ผลประกอบการไตรมาส 3/64 ของบจ. สถานการณ์โควิด ทิศทางเงินลงทุนจากต่างประเทศ ตัวเลขส่งออกเดือนก.ย.

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทว่า เงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น โดยเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 33.16 บาทต่อดอลลาร์ฯ รับข่าวการเปิดประเทศที่ทางการไทยมีแผนจะดำเนินการต่อเนื่อง ประกอบกับมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากสัญญาณซื้อสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ

ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลงตามการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี อย่างไรก็ดี กรอบการแข็งค่าของเงินบาทชะลอลงช่วงปลายสัปดาห์ หลังจากเงินดอลลาร์ฯ มีปัจจัยบวกประคองไว้จากตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลงมากกว่าที่คาด

ในวันศุกร์ (15 ต.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.30 เทียบกับระดับ 33.86 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (8 ต.ค.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (18-22 ต.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.80-33.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนของต่างชาติในตลาดการเงินไทย สถานการณ์โควิด และตัวเลขการส่งออกของไทยเดือนก.ย.

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลผลผลิตภาคอุตสาหกรรม การเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยและผลสำรวจภาคการผลิตจากเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย เดือนต.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน

นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ประกอบด้วย ข้อมูลจีดีพีไตรมาส 3/64 และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนก.ย. ของจีน อาทิ ยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม และการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR ของธนาคารกลางจีน รวมถึงข้อมูล PMI (เบื้องต้น) เดือนต.ค. ของสหรัฐฯ ยูโรโซน และอังกฤษ และอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนและอังกฤษ

ส่วนความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย หุ้นไทยกลับมาปิดใกล้เคียงกับระดับปิดสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,638.34 จุด ลดลง 0.07% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 86,443.97 ล้านบาท ลดลง 5.88% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 1.10% มาปิดที่ 554.45 จุด

หุ้นไทยร่วงลงในวันทำการแรกของสัปดาห์ ตามแรงขายจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศ ก่อนจะดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา ขานรับปัจจัยบวกจากการประกาศแผนเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. เป็นต้นไป

อย่างไรก็ดี หุ้นไทยลดช่วงบวกลงบางส่วนในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ ระหว่างรอประเมินสถานการณ์โควิดในประเทศ หลังพบคลัสเตอร์ผู้ติดเชื้อหลายแห่ง ตลอดจนรอติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/64 ของบริษัทจดทะเบียน

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (18-22 ต.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,630 และ 1,615 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,655 และ 1,665 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก ผลประกอบการไตรมาส 3/64 ของบจ. โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร สถานการณ์โควิด ปัจจัยทางการเมือง และทิศทางเงินลงทุนจากต่างประเทศ


ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน และยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย. รวมถึงดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนต.ค. ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ จีดีพีไตรมาส 3/64 และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนก.ย. ของจีน รวมถึงดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนต.ค.ของยูโรโซนและญี่ปุ่น ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.ย. ของยูโรโซนและญี่ปุ่น