เช็กเงื่อนไข เงินเยียวยาเด็กเล็ก 2,000 บาท

เด็ก

เช็กเงื่อนไข รัฐบาลจ่ายเงินเยียวยา “เด็กเล็ก” สังกัดศูนย์พัฒนาเด็ก อปท. คนละ 2,000 บาท  

วันที่ 25 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติกรอบวงเงินช่วยเหลือเยียวยาด้านการศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้กับเด็กเล็ก (อายุ 2-5 ปี) คนละ 2,000 บาท เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา

“ประชาชาติธุรกิจ” สรุปรายละเอียดของโครงการ พร้อมเงื่อนไข และการโอนผ่านบัญชีธนาคารของเด็กหรือผู้ปกครองที่ได้รับสิทธิ

เงินเยียวยาเด็กเล็ก

โครงการจ่ายเงินช่วยเหลือเด็กเล็ก ได้รับการอนุมัติขยายกรอบวงเงินเป็น 2,779 ล้านบาท จากเดิม 1,320 ล้านบาท เพื่อบรรเทาภาระและผลกระทบด้านค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีรายละเอียดการจ่ายเงิน ดังนี้

  • เด็กที่จะได้รับสิทธิต้องเป็นเด็กเล็ก จากศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ที่อยู่ในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
  • จ่ายเงินเยียวยาให้เด็กเล็กทั้งสิ้น 660,318 คน จากสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 18,540 แห่ง
  • เด็กเล็กที่ได้รับสิทธิ จะได้รับเงินช่วยเหลือคนละ 2,000 บาท

ขั้นตอนการดำเนินการ

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ต้องจัดส่งรายชื่อให้กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อตรวจความซ้ำซ้อนกับกลุ่มเป้าหมายโครงการ และจัดทำฐานข้อมูลรายชื่อและจำนวนนักเรียนในแต่ระดับให้เป็นปัจจุบัน

กรณีเด็กนักเรียนที่ไร้สัญชาติ จะต้องมีเลขบัตรประตัวประชาชน 13 หลัก ที่ทางราชการออกให้ โดยถูกกฎหมายและมีข้อมูลอยู่ในระบบสารสนเทศทางการศึกษาท้องถิ่น (LEC) จึงจะได้สิทธิรับเงิน

รับโอนเงินผ่านบัญชี หรือ เงินสด

สำหรับการโอนเงิน อปท. จะโอนเข้าบัญชีธนาคารให้กับผู้ปกครองที่มีบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทยก่อน ส่วนธนาคารอื่น ๆ ให้รอภายในระยะเวลา 3-7 วันทำการ

ส่วนผู้ปกครองที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ สามารถแจ้งความประสงค์การรับเงินตามโครงการฯ โดยสามารถแจ้งข้อมูลเพื่อโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของนักเรียนหรือผู้ปกครอง หรือกรณีที่ไม่มีบัญชีเงินฝากธนาคารหรือไม่สามารถเปิดบัญชีเงินฝากธนาคารได้ สามารถขอรับเป็นเงินสดแทนได้

กำหนดการจ่ายเงิน เยียวยา

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีข่าวรายงานว่า จะมีการโอนเงินดังกล่าวในวันที่ 1-15 พฤศจิกายน 2564 ขณะที่ “ประชาชาติธุรกิจ” สอบถามไปยัง อปท. พบว่า กำหนดการดังกล่าว เป็นเพียงการคาดการณ์ เนื่องจากต้องรอสำนักงบประมาณ โอนงบประมาณดังกล่าวมาให้อีกครั้ง ส่วนกรมบัญชีกลาง ระบุว่า งบประมาณดังกล่าวมีกรอบวงเงินไว้แล้ว รอเพียงสำนักงบประมาณดำเนินการโอนจ่ายให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง