
ธ.ก.ส. โอนเงินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 งวดที่ 8-9 ให้เกษตรกรแล้วกว่า 377,000 ครัวเรือน วงเงินกว่า 4,800 ล้านบาท เผยยอดรวมการโอนเงิน งวดที่ 1-9 รวมแล้วกว่า 82,000 ล้านบาท มีเกษตรกรได้รับประโยชน์ 4.5 ล้านครัวเรือน
วันที่ 15 ธันวาคม 2564 นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 และมติที่ประชุมคณะกรรมการ ธ.ก.ส. เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2564 เห็นชอบกรอบแนวทางการดำเนินงานเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 นั้น ซึ่งในวันนี้ (15 ธันวาคม 2564) ธ.ก.ส. ได้ดำเนินการโอนเงินประกันรายได้ในงวดที่ 1-7 (เพิ่มเติม) พร้อมงวดที่ 8-9 อีกจำนวน 4,838 ล้านบาท จำนวนเกษตรกร 377,122 ครัวเรือน
- เปิดวิธีขอกู้ กองทุนชราภาพ ก่อนอายุ 55 ปี มีเงื่อนไขอะไรบ้าง
- ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 พฤษภาคม 2565 (อัพเดต)
- เปิดประวัติ คังคุไบ ราชินีมาเฟียแห่งมุมไบตัวจริง
“ผลการโอนเงินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 ตั้งแต่งวดที่ 1-9 รวมทั้งหมดจำนวน 82,308 ล้านบาท จำนวนเกษตรกรได้รับประโยชน์ 4,504,348 ครัวเรือน”
สำหรับการประกันรายได้ดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวให้ได้รับผลตอบแทนจากการผลิตที่เหมาะสม เป็นการป้องกันความเสี่ยงด้านราคาไม่ให้ประสบปัญหาขาดทุน และช่วยแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และอุทกภัย โดยที่กลไกตลาดยังคงทำงานเป็นปกติ
ประกันรายได้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 5 ชนิด
- ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน
- ข้าวเปลือกหอมมะลินอกเขต ตันละ 14,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน
- ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน
- ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน
- ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน
ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถตรวจสอบผลการโอนเงินได้ทางแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile ตลอด 24 ชั่วโมง และจะมีข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีผ่าน LINE Official BAAC Family กรณีที่ลูกค้าสมัครใช้บริการ BAAC Connect รวมถึงสามารถเบิกถอนเงินสดผ่านตู้ ATM ของ ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ