คลังเร่งสรุปคำนวณภาษีคริปโทฯ ลุ้น! นำส่วนที่ขาดทุนมาหักลบกลบกันได้

แดนสวรรค์นักเทรดเหรียญ ประเทศใดไร้
FILE PHOTO: REUTERS/Dado Ruvic

รมว.คลัง เร่งสรุปคำนวณภาษีคริปโท ก่อนหมดเขตยื่นแบบเงินได้ 8 เม..65 ด้านรมช.คลัง ชี้อย่าโจมตีกันสรรพากรเก็บภาษีตามกฎหมาย

วันที่ 12 มกราคม 2565 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้มอบหมายให้กรมสรรพากรไปหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มความชัดเจนในการเก็บภาษีคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งขณะนี้กรมสรรพากรอยู่ระหว่างการพิจารณาในรายละเอียดร่วมกับสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย อย่างไรก็ดี ในกฎหมายระบุเรื่องการเก็บภาษีคริปโทเคอร์เรนซีไว้แล้ว และปีภาษีที่ผ่านมาก็มีการเสียภาษีในเรื่องนี้อยู่ แต่ปีภาษี 2564 นี้ มีการกำหนดรายละเอียดให้ชัดเจนขึ้น ซึ่งลักษณะการแจ้งยอดรายได้กำไรจากคริปโทเคอร์เรนซีนี้ ก็เป็นการประเมินตนเอง

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ส่วนหลักเกณฑ์จะเป็นอย่างไรนั้น กรมสรรพากรอยู่ระหว่างการศึกษาและพิจารณาทุกประเด็น ทั้งในเรื่องการคำนวณภาษีเงินได้กำไรจากคริปโทเคอร์เรนซี และการนำส่วนที่ขาดทุนจากคริปโทเคอร์เรนซีมาคำนวณหักลบกลบกันได้โดยในต่างประเทศก็มีการคำนวณภาษีรูปแบบนี้ ซึ่งจะต้องทำให้ทันภายในการสิ้นสุดยื่นแบบแสดงเงินได้ถึง 8 เม.. 65 ขณะที่จะปรับรูปแบบการเก็บภาษีเงินได้คริปโทเคอร์เรนซีเป็น capital gain ไปเลยทีเดียว โดยไม่ต้องคำนวณเป็น transaction เนื่องจากมีจำนวนเยอะมากนั้น ในส่วนนี้ก็กำลังพิจารณา

ตอนนี้เรากำลังพิจารณาเรื่องความชัดเจนในการเก็บภาษีคริปโทเคอร์เรนซีว่าจะเก็บแบบ capital gain หรือtransaction  ซึ่งถ้าคำนวณเป็น  capital gain ก็จะนำมาหักกลบลบในส่วนที่เป็นกำไรและขาดทุนจากการขายคริปโทเคอร์เรนซีได้ เป็นต้น ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวเงินได้จากกำไรจากคริปโทเคอร์เรนซีไม่เกิน 210,000 บาท จะได้รับการยกเว้นภาษีนั้น  ยังหารือร่วมกันอยู่ ยังตอบไม่ได้นายอาคมกล่าว

ขณะที่การเสียภาษีหัก ที่จ่าย 15% จะออกกฎหมายให้ exchange  เป็นผู้หักภาษีเพื่อให้สะดวกขึ้นหรือไม่นั้น จะต้องมีการตกลงกันก่อน ซึ่งขณะนี้ผู้ซื้อมีหน้าที่นำส่งภาษีหัก ที่จ่าย

ด้านนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวการคลัง กล่าวว่า ชื่นชมการทำงานของกรมสรรพากร เพราะเป็นการทำหน้าที่ภายใต้ความถูกต้องและกฎหมาย โดยเป็นเรื่องปกติ และเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนทุกกลุ่มที่ต้องเสียภาษี ขณะที่การจัดเก็บภาษีคริปโท ก็เป็นการดำเนินการภายใต้กฎหมายเช่นกัน

อย่ามาโจมตีกัน หากกระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพากร ทำหน้าที่ในการเก็บภาษีในรูปแบบต่างๆ อย่างตรงไปตรงมาก็ต้องสนับสนุน ให้รัฐสามารถจัดเก็บภาษี ส่วนการตรวจสอบรัฐ คือ การตรวจสอบว่าเงินจากการจัดเก็บภาษีมีการเบียดบังหรือหลบเลี่ยง ก็ต้องช่วยกันตรวจสอบ ช่วยกันปกป้อง แต่หากภาษีที่จัดเก็บมีการนำเข้าระบบถูกต้อง มีการนำไปพัฒนาต่อ ก็ควรช่วยกันสนับสนุน

นายสันติ กล่าวอีกว่า เงินคริปโท ไม่เหมือนกับเงินดอลลาร์ เงินเยน หรือ เงินบาท ที่มีรัฐบาลหรือหน่วยงานเข้าไปคอยกำกับดูแล เข้าไปค้ำประกันไม่ให้ล้ม หรือเกิดความเสียหาย แต่คริปโทเป็นเงินขององค์กร ซึ่งการที่กรมสรรพากรเข้ามาจัดเก็บภาษีตามกฎหมาย เหมือนการเข้าไปดูการซื้อขาย หรือความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งการจัดเก็บภาษี ก็ไม่ใช่กฎเกณฑที่ตั้งขึ้นมาใหม่ เช่นเดียวกับภาษีหุ้นที่รัฐบาลได้ยกเว้นมาหลาย 10 ปี ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ต้องจัดเก็บ

ไม่ได้เกี่ยวว่ารัฐบาลไม่มีเงิน ยืนยันรัฐบาลยังมีเงิน แต่การจัดเก็บภาษี เป็นการทำเพื่อความเป็นธรรม ไม่เช่นนั้น ซึ่งภาคการเงิน ถือเป็นภาคของคนอีกกลุ่มหนึ่ง อีกระดับหนึ่ง ไม่งั้นคนรวยก็รวย ถึงเวลาอาจหายไปไหนก็ได้ แล้วกลายมาเป็นรัฐบาลต้องเข้าไปเยียวยาคนที่ได้รับผลกระทบนายสันติ กล่าว